การวิ่งขึ้นแรงของ หุ้นกลุ่ม Value แค่ชั่วคราว หรือยาวกว่านั้น? odini BLACK Schroders Growth & Income 

การวิ่งขึ้นแรงของ หุ้นกลุ่ม Value แค่ชั่วคราว หรือยาวกว่านั้น? odini BLACK Schroders Growth & Income

การวิ่งขึ้นแรงของ หุ้นกลุ่ม Value แค่ชั่วคราว หรือยาวกว่านั้น? odini BLACK Schroders Growth & Income 

🏃💨การวิ่งขึ้นแรงของ หุ้นกลุ่ม Value แค่ชั่วคราว หรือยาวกว่านั้น? 

odini BLACK Schroders Growth & Income 

.

กลุ่มหุ้นราคาถูก ให้ผลตอบแทนเหนือ หุ้นกลุ่ม Growth ด้วย Margin ที่มากขึ้น ในปี 2022 โดยดัชนี MSCI World Value Index ให้ผลตอบแทนเหนือ MSCI World Growth Index กว่า 23%

.

ถือเป็นปีปฏิทินติดต่อกันครั้งที่สองแล้วที่ หุ้นกลุ่ม Value ให้ผลตอบแทนเหนือ หุ้นกลุ่ม Growth ซึ่งตรงกันข้ามกับในอดีตที่ให้ผลตอบแทนแย่กว่าถึง 7 ปี จาก 8 ปี รวมเป็นผลตอบแทนถึง 128% จึงนำมาสู่คำถามที่ว่า “การลงทุนแบบ Value ได้ตายไปแล้วหรือยัง?”

.

คำถามใหญ่สำหรับตลาดหุ้นวันนี้คือการทำผลตอบแทนชนะของ หุ้นกลุ่ม Value จะเป็นแค่ชั่วคราว หรือยาวกว่านั้น?

.

1.หลังจากการวิ่งขึ้นแรงของ หุ้นกลุ่ม Value จะเป็นเช่นนี้ไปต่อได้ไหม?

.

การจะคาดเดาว่า หุ้นกลุ่ม Value หรือ Growth จะทำผลตอบแทนได้ดีกว่ากัน เพียงระยะเวลาสั้น ๆ แค่ในไตรมาสข้างหน้านั้นไม่ได้ช่วยอะไร สิ่งที่ควรจะเป็นคือต้องพิจารณาบนระยะเวลาที่ยาวขึ้น และหนึ่งในแนวทางที่ทำให้การคาดเดามีผลลัพธ์ที่เชื่อถือได้ คือการพิจารณาด้วย Relative Valaution (ราคาโดยเปรียบเทียบ)

.

เพราะวิธีการดังกล่าวอยู่บนฐาน Mean reversion (การกลับเข้าสู่ค่าเฉลี่ยระยะยาว) กล่าวคือบริษัทที่มีราคาแพงจำนวนน้อยมากที่จะแพงต่อไปได้ และบริษัทที่มีราคาถูกจำนวนน้อยมากที่จะถูกลงได้ตลอดไป

.

นับตั้งแต่ 1975 หุ้นกลุ่ม Value มีราคาโดยเปรียบเทียบค่ากลาง ที่ส่วนลด 42% (เส้นประสีเขียว) อ้างอิงจากข้อมูลจะพบว่าเมื่อใดก็ตามที่ส่วนลดนี้ขึ้นไปอยู่เหนือ หรือลงมาต่ำกว่าที่ระดับดังกล่าว หมายถึง Mean reversion จะดึงกลับที่ค่ากลางระยะยาวนี้

.

ทั้ง ๆ ที่การทำผลตอบแทนได้ดีของ หุ้นกลุ่ม Value ช่วงที่ผ่านมา ในปัจจุบันยังคงเทรดที่ระดับส่วนลด 60% ซึ่งยังต่ำกว่าค่ากลางดังกล่าวมาก และไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคไหน จะยุโรป ตลาดเกิดใหม่ หรือทั่วโลกเอง ก็เป็นภาพเช่นเดียวกัน หุ้นกลุ่ม Value นั้นมีปัจจัยเชิงมูลค่าโดยเปรียบเทียบที่น่าสนใจ

.

อ้างอิงจากภาพ มีแค่หนึ่งช่วงเวลาเท่านั้นคือย้อนกลับไปช่วง Post Dotcom แน่นอนว่าผลตอบแทนในอดีตไม่ได้การันตีผลตอบแทนในอนาคต แต่เมื่อใดก็ตามที่ส่วนลดได้ปิดช่องว่างลง หลังจากการแตกของฟองสบู่ Dotcom ในตอนนั้น หุ้นกลุ่ม Value ทำผลตอบแทนชนะขาด

.

ทั้งนี้ต้องพิจารณาถึง Absolute performance (ผลตอบแทนที่ทำได้) ด้วยเช่นกัน ไม่ใช่เพียงแค่ผลตอบแทบแบบเปรียบเทียบ

.

นั่นคือหากพิจารณาในมุม Absolute valuation (ราคาโดยสัมบูรณ์) ด้วยราคาที่ถูกระดับ Quintile ของหุ้นโลกจาก Cyclically-adjusted price to earnings – or CAPE Multiple ที่เปรียบเทียบราคาด้วยค่าเฉลี่ยของกำไรช่วง 10 ปีในอดีต ปรับด้วยเงินเฟ้อ อยู่ที่ 9.2X เทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 13X นับตั้งแต่ปี 1990 หมายถึงว่า หุ้นกลุ่ม Value นั้นมีปัจจัยเชิงมูลค่าแบบสัมบูรณ์ที่น่าสนใจสำหรับมุมมองระยะยาว 

.

โดยสรุปแล้ว หุ้นกลุ่ม Value ยังอยู่ในช่วง “แปะป้ายลดราคา”

.

2.เสียสติหรือเปล่าที่จะถือ หุ้นกลุ่ม Value ต่อไปจนถึงยาม Recession?

.

คนบางกลุ่มเชื่อว่า หุ้นกลุ่ม Value จะเป็นไปได้ยากที่จะสร้างผลตอบแทนได้ดีต่อไปถึงยาม Recession เพราะเมื่อก่อนจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ผลที่ตามมาคือราคาจะร่วงลง หุ้นกลุ่ม Cyclical – กลุ่มที่ผลประกอบการอ่อนไหวมากที่สุดต่อสภาวะเศรษฐกิจ และหุ้นกลุ่มเหล่านี้เองส่วนใหญ่คือ หุ้นกลุ่ม Value เพราะความผันผวนของกำไร

.

จากแนวคิดที่ว่าช่วง Recession กำไรของบริษัทจดทะเบียนจะแย่ลง ซึ่งอาจจะอย่างรุนแรง ยังไม่ได้เป็นที่พูดถึงนัก อยางไรก็ตาม ตลาดหุ้นโดยปกติจะเคลื่อนไหวนำหน้าการปรับลดลงของผลประกอบการ และยิ่งไปกว่านั้นคือในช่วงที่ Recession ส่งสัญญาณ อย่างในตอนนี้

.

เราจะต้องเตรียมความพร้อมที่จะซื้อก่อนหน้าที่ผลประกอบการจะปรับลงเสร็จสิ้น การรอนานจนเกินไป จะทำให้สายจนเกินไปและพลาดโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ และการจะจับจังหวะเองก็ยากที่จะเป็นไปได้ 

.

จึงเป็นสาเหตุสำคัญว่าทำไมต้องถือลงทุนข้าม Recession ไป ในขณะเดียวกันก็ต้องเลือกลงทุนในบริษัทอย่างชาญฉลาดด้วย ที่สอดคล้องกับงานศึกษาของเรา ว่ายิ่งบริษัทมีปัจจัยเชิงพื้นฐานแข็งแกร่งเท่าไร เกราะกำบังของผลตอบแทนขาลงก็ยิ่งมากเท่านั้น จากการมี Margin of safety ที่สูง

.

และในที่สุดเมื่อฟองสบู่แตก การถือลงทุนในบริษัทที่มูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง ควรจะเป็นแนวคิดที่ดี มีเหตุการณ์ที่ยืนยันชัดเจนคือในช่วงหลัง Dotcom bubble ที่ หุ้นกลุ่ม Value ทำผลตอบแทนชนะ หุ้นกลุ่ม Growth ยาวนานถึง 7 ปี

.

3.หุ้นกลุ่ม Value มีแค่กลุ่ม Financials และ Big oil?

.

เป็นเรื่องจริงที่ว่าทั้งกลุ่ม Financials และ Energy เป็นกลุ่มหลักที่ดันผลตอบแทนขึ้นในช่วงปี 2022 อย่างไรก็ตามยังมีกลุ่มอื่นที่ช่วยสร้างผลตอบแทนเช่นกัน เพราะจาก 23% ของผลตอบแทนที่เหนือกว่า 3.9% มาจาก Financials และ 3.5% มาจาก Oil ส่วนที่เหลือถึง 16% มาจากกลุ่มอื่น

.

จนถึงวันนี้ ยังมีโอกาสมากมายทั่วโลกสำหรับตลาดหุ้นด้วยราคาที่ถูก นอกเหนือไปจากกลุ่ม Bank และ Energy กลุ่ม Technology สหรัฐฯ ราคาก็ได้ตกลงมามาก ไม่ใช่แค่ Mega-cap แต่ยังมีกลุ่มอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง เช่น Memory หรืออย่างจีนเองก็ได้มีการเทขายไปมาก และหลายธุรกิจ Cyclical ของยุโรปเองก็เช่นกัน อย่าง บริษัท Industrials สัญชาติเยอรมัน

.

ดังนั้นในขณะที่กลุ่ม Financials และ Big oil โดยเฉพาะ European Bank ที่อยู่ในโอกาสของ หุ้นกลุ่ม Value ซึ่งไม่ได้เป็นแค่การเดิมพันทางเดียว ในสองกลุ่มดังกล่าว เพราะเป็นการกระจายในหลากหลายกลุ่มอุตสาหรรม อีกทั้งอยู่บนฐานของปัจจัยด้านมูลค่าที่สนับสนุน ดังนั้นจึงเป็นไปอย่างสมเหตุสมผล อย่างที่การลงทุนควรจะเป็น

.

┏━━━━━━━━━━━━━┓

ให้ Schroders ผู้บริหารพอร์ตลงทุนระดับโลกดูแลพอร์ตของคุณ

✔️บริษัทจัดการลงทุนระดับโลก Schroders เป็นที่ปรึกษาในการจัดสรรสินทรัพย์

✔️กระจายการลงทุนอย่างยืดหยุ่น

✔️ปรับพอร์ตอัตโนมัติ 

✔️ลงทุนเริ่มต้นเพียง 50,000 บาท เท่านั้น

┗━━━━━━━━━━━━━┛

.

อยากเริ่มลงทุนแล้ว คลิก odiniapp.co/3NZCMWQ

.

.#odini
#แอปลงทุนกองทุนรวมอัตโนมัติ
#ลงทุนง่ายได้ทุกคน

.

ที่มา: Schroders, 1 ก.พ. 2023

.

*ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต

**การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.