odini คือตัวช่วยให้คนเข้าถึงการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งครอบคลุมทั้งการจัดสัดส่วนการลงทุน (Asset Allocation) และการคัดเลือกกองทุน (Fund Selection)
ในขั้นตอนของการจัดสัดส่วนการลงทุน (Asset Allocation) หรือการจัดทีมนั้น จะประกอบไปด้วย
1. พอร์ตการลงทุนหลัก (Core Portfolio) หรือตำแหน่งหลัก คือ กองทุนตราสารหนี้และกองทุนหุ้นไทย ซึ่งเน้นสร้างผลตอบแทนตามเป้าหมายในระยะยาว
2. พอร์ตเสริม (Satellite Portfolio) หรือตำแหน่งเสริม คือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ฯ กองทุนหุ้นต่างประเทศในภูมิภาคต่าง ๆ และสินทรัพย์ทางเลือกอื่น ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนให้มากขึ้น รวมถึงช่วยกระจายความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี โดยใช้มุมมองที่นักวิเคราะห์จากทั่วโลกมีต่อสินทรัพย์ประเภทเข้ามาช่วยปรับพอร์ตให้เข้ากับสถานการณ์การลงทุนในขณะนั้น
ในขั้นตอนของการคัดเลือกกองทุน (Fund Selection) หรือการคัดเลือกนักเตะนั้น odini จะเน้นคัดเลือกกองทุนที่มีผลการดำเนินงานดีอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนอื่นที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน คือถ้าต้องเลือกระหว่างคนที่เก่งที่สุดแต่ฟอร์มการเล่นขึ้น ๆ ลง ๆ กับคนที่เก่งพอประมาณแต่มีฟอร์มที่คงเส้นคงวา เราจะเลือกคนที่เก่งแบบคงเส้นคงวา เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการความหวือหวา
นอกจากนี้ สำหรับสินทรัพย์ที่ผลการดำเนินงานของกองทุนมีความผันผวนสูง เช่นกองทุนหุ้นไทยที่บางครั้งอันดับของกองทุนมักจะแกว่งไปมาจากหัวตารางลงไปอยู่ท้ายตาราง หรือจากท้ายตารางขึ้นมาอยู่หัวตาราง odini จะแนะนำให้ลงทุนเป็นกลุ่มของกองทุนเพื่อกระจายความเสี่ยง แทนที่การเลือกเพียงกองทุนเดียว โดยการดูความสัมพันธ์ (Correlation) ระหว่างกองทุน แล้วคัดเลือกชุดกองทุน 3 กองทุนที่อยู่รวมกันแล้วดีที่สุด เปรียบเหมือนผู้เล่น 3 คนที่เข้าขากันมากที่สุด
คำแนะนำด้านการลงทุนนี้จะถูกจัดเตรียมไว้ 5 พอร์ตการลงทุน โดยแบ่งตามระดับผลตอบแทนเป้าหมายตั้งแต่ 4% ถึง 12% ต่อปี ตามลำดับ “จากข้อมูลปัจจุบัน ลูกค้า odini ส่วนใหญ่จะเลือกพอร์ตที่มีผลตอบแทนเป้าหมาย 8% และ 10% ต่อปี โดยที่ผลการดำเนินงานตั้งแต่เดือน ก.ค. จนถึง ก.ย. 2561 odini สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 2.8% ถึง 4.0%”