ซื้อ-ขายกองทุนรวมอัตโนมัติ

ประเมินจากความเสี่ยงการลงทุนที่คุณยอมรับได้

หนึ่งเดียวในไทยที่ใช้ Robo-advisor ลงทุนอัตโนมัติในกองทุนรวม

odini ให้ความสำคัญกับประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้เป็นหลัก เพื่อให้ผู้ใช้งานสัมผัสกับความง่าย สะดวก และน่าเชื่อถือมากที่สุด

odini ต้องการทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศสามารถลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พอเป้าหมายเป็นคนจำนวนมาก วิธีการเข้าถึงและใช้งานจะต้องง่ายสุด ๆ แต่ของอะไรก็ตามที่ภายนอกเรียบง่ายและดูดี ภายในมักจะซับซ้อน เหมือนโทรศัพท์มือถือ ยิ่งเครื่องบาง ยิ่งปุ่มน้อย ก็ยิ่งออกแบบและประกอบยาก odini เองก็เช่นกัน เบื้องหลังของระบบ odini มีการจำลองสมองของผู้จัดการกองทุนไว้ และออกแบบมาให้ทุกอย่างสามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติ จนถึงระดับที่คนใช้งานแทบจะไม่รู้ตัวเลยว่า odini กำลังทำงานที่ซับซ้อนให้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่มีคุณค่า และคุ้มค่าเมื่อทำได้สำเร็จ

ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน: จัดพอร์ตการลงทุน ≠ คัดเลือกกองทุน

พอพูดถึงเรื่องการออมการลงทุน คนส่วนใหญ่ก็จะคิดถึงแค่การฝากเงินและการซื้อหุ้น มีคนเพียงส่วนน้อยที่จะคิดถึงการลงทุนผ่านกองทุนรวม ส่วนคนที่ลงทุนผ่านกองทุนรวมนั้น ก็มักเน้นให้ความสำคัญกับการคัดเลือกกองทุนเป็นหลัก ซึ่งในความเป็นจริงนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดในเรื่องการลงทุน คือการจัดเงินและจัดสัดส่วนการลงทุน (Asset Allocation) หากเปรียบเทียบกับทีมฟุตบอล การเลือกหุ้นหรือเลือกกองทุน คือการคัดเลือกตัวนักเตะ แต่หัวใจที่แท้จริงคือการจัดทีมและจัดตำแหน่งผู้เล่น เหมือนกับการทำ Asset Allocation

พอร์ตลงทุนที่มีแต่เงินฝากหรือกองทุนตราสารหนี้ คือทีมที่มีแต่กองหลัง ไม่เสียประตูแต่ก็ไม่ชนะ สุดท้ายจบลงด้วยการมีเงินไม่พอใช้ยามเกษียณ

พอร์ตลงทุนที่มีแต่หุ้นหรือกองทุนหุ้น คือทีมที่มีแต่กองหน้า มีโอกาสทำประตูเยอะ แต่โอกาสเสียประตูก็สูงเช่นกัน สุดท้ายเจอวิกฤตรอบเดียวก็จอดป้ายแรก ผ่านไปไม่ได้

ดังนั้น พอร์ตที่ดีจึงต้องมีสินทรัพย์หลากหลายประเภท ทั้งตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ และสินทรัพย์ทางเลือกอื่น ๆ เพราะสินทรัพย์ทุกประเภทต่างมีหน้าที่ของตัวเอง เช่น การสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ การสร้างกำไรส่วนเพิ่ม และการกระจายความเสี่ยง เป็นต้น ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนนี้ไม่ใช่ความผิดของนักลงทุน แต่เป็นเพราะคนส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงคำแนะนำที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งตรงจุดนี้ odini จะเข้ามาช่วยให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้อย่างสบายใจมากขึ้น

จัดพอร์ตตอบโจทย์ ผลตอบแทนเป้าหมาย เลือกได้ตั้งแต่ 4% - 12%

odini คือตัวช่วยให้คนเข้าถึงการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งครอบคลุมทั้งการจัดสัดส่วนการลงทุน (Asset Allocation) และการคัดเลือกกองทุน (Fund Selection)

ในขั้นตอนของการจัดสัดส่วนการลงทุน (Asset Allocation) หรือการจัดทีมนั้น จะประกอบไปด้วย

1. พอร์ตการลงทุนหลัก (Core Portfolio) หรือตำแหน่งหลัก คือ กองทุนตราสารหนี้และกองทุนหุ้นไทย ซึ่งเน้นสร้างผลตอบแทนตามเป้าหมายในระยะยาว

2. พอร์ตเสริม (Satellite Portfolio) หรือตำแหน่งเสริม คือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ฯ กองทุนหุ้นต่างประเทศในภูมิภาคต่าง ๆ และสินทรัพย์ทางเลือกอื่น ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนให้มากขึ้น รวมถึงช่วยกระจายความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี โดยใช้มุมมองที่นักวิเคราะห์จากทั่วโลกมีต่อสินทรัพย์ประเภทเข้ามาช่วยปรับพอร์ตให้เข้ากับสถานการณ์การลงทุนในขณะนั้น

ในขั้นตอนของการคัดเลือกกองทุน (Fund Selection) หรือการคัดเลือกนักเตะนั้น odini จะเน้นคัดเลือกกองทุนที่มีผลการดำเนินงานดีอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนอื่นที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน คือถ้าต้องเลือกระหว่างคนที่เก่งที่สุดแต่ฟอร์มการเล่นขึ้น ๆ ลง ๆ กับคนที่เก่งพอประมาณแต่มีฟอร์มที่คงเส้นคงวา เราจะเลือกคนที่เก่งแบบคงเส้นคงวา เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการความหวือหวา

นอกจากนี้ สำหรับสินทรัพย์ที่ผลการดำเนินงานของกองทุนมีความผันผวนสูง เช่นกองทุนหุ้นไทยที่บางครั้งอันดับของกองทุนมักจะแกว่งไปมาจากหัวตารางลงไปอยู่ท้ายตาราง หรือจากท้ายตารางขึ้นมาอยู่หัวตาราง odini จะแนะนำให้ลงทุนเป็นกลุ่มของกองทุนเพื่อกระจายความเสี่ยง แทนที่การเลือกเพียงกองทุนเดียว โดยการดูความสัมพันธ์ (Correlation) ระหว่างกองทุน แล้วคัดเลือกชุดกองทุน 3 กองทุนที่อยู่รวมกันแล้วดีที่สุด เปรียบเหมือนผู้เล่น 3 คนที่เข้าขากันมากที่สุด

คำแนะนำด้านการลงทุนนี้จะถูกจัดเตรียมไว้ 5 พอร์ตการลงทุน โดยแบ่งตามระดับผลตอบแทนเป้าหมายตั้งแต่ 4% ถึง 12% ต่อปี ตามลำดับ “จากข้อมูลปัจจุบัน ลูกค้า odini ส่วนใหญ่จะเลือกพอร์ตที่มีผลตอบแทนเป้าหมาย 8% และ 10% ต่อปี โดยที่ผลการดำเนินงานตั้งแต่เดือน ก.ค. จนถึง ก.ย. 2561 odini สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 2.8% ถึง 4.0%” 

พอร์ตผลตอบแทน

0 % ต่อปี

ระดับความเสี่ยงในการลงทุนคือ ต่ำ

โดยมีสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ดังนี้

ตราสารหนี้
87.4%
หุ้นในประเทศ
12.6%

พอร์ตผลตอบแทน

0 % ต่อปี

ระดับความเสี่ยงในการลงทุนคือ ต่ำ

โดยมีสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ดังนี้

ตราสารหนี้
71%
อสังหาริมทรัพย์
0%
หุ้นในประเทศ
17.4%
หุ้นอเมริกา
5.9%
หุ้นยุโรป
0%
หุ้นญี่ปุ่น
3.4%
หุ้นจีน
0%
หุ้นตลาดเกิดใหม่
2.3%

พอร์ตผลตอบแทน

0 % ต่อปี

ระดับความเสี่ยงในการลงทุนคือ ต่ำ

โดยมีสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ดังนี้

ตราสารหนี้
54%
อสังหาริมทรัพย์
0%
หุ้นในประเทศ
29.8%
หุ้นอเมริกา
8.1%
หุ้นยุโรป
0%
หุ้นญี่ปุ่น
4%
หุ้นจีน
0%
หุ้นตลาดเกิดใหม่
3.5%

พอร์ตผลตอบแทน

0 % ต่อปี

ระดับความเสี่ยงในการลงทุนคือ ต่ำ

โดยมีสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ดังนี้

ตราสารหนี้
37.1%
อสังหาริมทรัพย์
0%
หุ้นในประเทศ
39.4%
หุ้นอเมริกา
10.4%
หุ้นยุโรป
0%
หุ้นญี่ปุ่น
5.6%
หุ้นจีน
0%
หุ้นตลาดเกิดใหม่
4.4%

พอร์ตผลตอบแทน

0 % ต่อปี

ระดับความเสี่ยงในการลงทุนคือ ต่ำ

โดยมีสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ดังนี้

ตราสารหนี้
20.1%
อสังหาริมทรัพย์
0%
หุ้นในประเทศ
55.4%
หุ้นอเมริกา
12.6%
หุ้นยุโรป
0%
หุ้นญี่ปุ่น
6.8%
หุ้นจีน
0%
หุ้นตลาดเกิดใหม่
5.1%

มากกว่า ‘คำแนะนำ’ คือการนำไปใช้

สำหรับนักลงทุนทั่วไปที่ไม่ได้มีเงินมากพอที่จะมีคนมาคอยดูแลเรื่องการลงทุนให้อย่างใกล้ชิด หลังจากใช้ความพยายามในการเสาะหาคำแนะนำที่ดีมีประสิทธิภาพมาได้แล้ว ด่านสำคัญต่อไปที่ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องผิดหวังกับการลงทุน คือการนำคำแนะนำนั้นไปใช้งานจริง เนื่องจากคำแนะนำจะดีแค่ไหนหากไม่ได้ทำตามก็ไม่มีประโยชน์ หรือถ้าทำตามไปแล้วแต่ไม่ได้ติดตามอาจก่อให้เกิดโทษก็ได้ เช่น มีคนแนะนำให้ซื้อกองทุนหนึ่ง ตอนที่แนะนำและซื้อก็ดีจริง แต่ตอนที่ไม่ดีแล้วไม่มีคนมาบอกให้ขาย เป็นต้น

สืบเนื่องจากกับดักการลงทุนของคนส่วนใหญ่นี้ odini จึงพัฒนาระบบที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้ตามคำแนะนำ โดยการจำลองวิธีคิดและการทำงานของผู้จัดการกองทุนในการจัดเงินและติดตามพอร์ตการลงทุนมาไว้ใน odini

⚪ ทุกครั้งที่ลงทุนเพิ่ม (Deposit) – odini จะคำนวณคำสั่งซื้อโดยการแจกเงินให้กับสินทรัพย์ที่มีอยู่น้อยเกินไป (Underweight) เมื่อเทียบกับสัดส่วนที่แนะนำ

⚪ ทุกครั้งที่ถอนเงินลงทุน (Withdrawal) – odini จะคำนวณคำสั่งขายโดยการขายสินทรัพย์ที่มีอยู่มากเกินไป (Overweight) เมื่อเทียบกับสัดส่วนที่แนะนำ

ในแต่ละเดือน odini จะคอยตรวจสอบสถานะพอร์ตการลงทุนจริงของลูกค้าแต่ละคนว่าแตกต่างไปจากคำแนะนำมากเกินไปหรือไม่ เพื่อทำการปรับสมดุลพอร์ต (Portfolio Rebalancing) ให้เหมาะสม

นอกจากนี้ odini ยังคอยติดตามผลการดำเนินงานของกองทุนที่ลูกค้าแต่ละคนมีอยู่ ว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถถือเพื่อลงทุนต่อไปได้หรือไม่ (Fund Monitoring) อีกด้วย กลไกการทำงานเหล่านี้ ถูกออกแบบมาให้ทำงานเข้ากับเงื่อนไขของแต่ละกองทุน และสอดคล้องกับหลักเกณฑ์การทำงานของอุตสาหกรรมกองทุนรวมในประเทศไทย

เวลาที่ดีที่สุดในการลงทุนคือ ตอนนี้

โหลดแอป เปิดบัญชีลงทุน แล้วเริ่มต้นลงทุนได้เลย แค่ ฿1,000 ก็ลงทุนได้แล้ว