26
Jul
odini BLACK Schroders Growth & Income ตอน เมื่อตราสารเครดิตมาโปรด: ช่วงไหนกลุ่มใดจะโชติช่วง
Comments
ตราสารเครดิตกลุ่มใดสร้างผลตอบแทนได้ดีที่สุดในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว? แล้วถ้าหากดอกเบี้ยอยู่ในจุดที่จะเริ่มลดลงกับเศรษฐกิจเริ่มที่จะกลับมาโตขึ้นได้อีกครั้ง ต้องเป็นกลุ่มไหน? พร้อมแล้วตาม odini BLACK Schroders Growth & Income มาเลย กับตอน เมื่อตราสารเครดิตมาโปรด: ช่วงไหนกลุ่มใดจะโชติช่วง
┏━━━━━━━━━━━━━┓
🔊DCA ผ่าน odini ได้แล้ววันนี้
ลองเลย 👆
┗━━━━━━━━━━━━━┛
———-
odini BLACK Schroders Growth & Income
ตอน เมื่อตราสารเครดิตมาโปรด: ช่วงไหนกลุ่มใดจะโชติช่วง
นักลงทุนตราสารหนี้ต่างได้ผ่านยุคดอกเบี้ยต่ำในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ต่อจากนี้ไปเราจะได้เห็นยุคดอกเบี้ยที่สูงขึ้น โดยในสภาวะแวดล้อมใหม่เช่นนี้ ตราสารหนี้เครดิตของภาคเอกชนจะมีบทบาทอย่างสำคัญในพอร์ตโฟลิโอ ซึ่งแต่ละกลุ่มจะมีเวลาโชติช่วงที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงของวัฏจักรเศรษฐกิจ
💠ช่วง Expansion
ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว ระดับการผลิตอยู่ในระดับสูงและเศรษฐกิจโตได้เร็ว ภาวะแบบนี้ดีต่อภาคธุรกิจ ผลประกอบการมีแนวโน้มดีขึ้น ทำให้สถานะทางการเงินเองก็ดีขึ้น ดังนั้นบริษัทมีแนวโน้มที่จะผิดนัดชำระหนี้น้อย โดยภาวะแบบนี้จะมาพร้อมกับดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม เมื่อเดินทางไปถึงช่วงสิ้นสุดของช่วงนี้ การเพิ่มขึ้นของปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ จะเป็นสาเหตุให้เงินเฟ้อก่อตัวสูงขึ้น และเนื่องจากระดับการผลิตอยู่ในระดับสูง ความต้องการวัตถุดิบและชิ้นส่วนการผลิต และพลังงาน ก็สูงขึ้นเช่นเดียวกัน สินค้าโภคภัณฑ์ ทองคำ และเงินสด มีแนวโน้มที่จะทำผลตอบแทนได้ดี ทั้งนี้ยังรวมถึง Short duration credit หรือ ตราสารเครดิตที่มีอายุเฉลี่ยสั้นด้วย ที่จะมีบทบาทสำคัญต่อพอร์ตโฟลิโอ ณ จุดสิ้นสุดของช่วงนี้ที่เศรษฐกิจเติบโตถึงจุดพีค
💠ช่วง Slowdown/Stagflation ถึง Recession/Disinflation
ช่วง Slowdown/Stagflation
ภาวะเช่นนี้เรียกว่าเศรษฐกิจชะลอตัวซึ่งในบางครั้งก็จะมาพร้อมกับภาวะเงินเฟ้อด้วย เมื่อเศรษฐกิจเติบโตถึงจุดพีคในช่วงก่อนหน้าแล้ว หลังจากนั้นก็จะเริ่มโตได้ช้าลง แต่เงินเฟ้อจะยังคงโตต่อ และภาคธุรกิจเองจะเริ่มรัดเข็มขัด โมเมนตัมการเติบโตติดลบต่อ สภาพการดำเนินธุรกิจอ่อนแอลง ผลประกอบการแย่ลง ทำให้บริษัทต่างพากันผิดนัดชำระหนี้ Investment Grade Bonds และ Government Bonds หรือ ตราสารหนี้ระดับน่าลงทุนและตราสารหนี้ภาครัฐ จึงทำผลตอบแทนได้ดีในภาวะเช่นนี้
ช่วง Recession/Disinflation
หลังจากที่เศรษฐกิจโตได้อย่างช้าๆ ลง เศรษฐกิจจะแย่ลงอีกเข้าสู่ ภาวะเศรษฐกิจถอยหรือช่วงที่อัตราเงินเฟ้อเดินหน้าลดลง ในภาวะแบบนี้ เศรษฐกิจได้เข้าสู่โซนหดตัว ระดับการจ้างงานแย่ลง ราคาสินค้า/บริการตกต่ำลง โดยอัตราการผิดนัดชำระหนี้จะทำจุดต่ำสุดในช่วงนี้ ขณะที่มาตรการดำเนินโดยธนาคารกลางเพื่อจัดการกับเงินเฟ้อได้เริ่มต้นมีผลและเงินเฟ้อจะลดลง ตราสารเครดิตกลุ่ม Investment Grade มักจะอยู่รอดในช่วงภาวะขาลงลักษณะนี้
💠ช่วง Recovery
เมื่อเดินทางเข้าสู่จุดสิ้นสุดของวัฏจักร โอกาสจะมีมากขึ้นในกลุ่ม High Yield หรือ ตราสารเครดิตระดับไม่น่าลงทุน/ให้ผลตอบแทนสูง เนื่องจากโมเมนตัมเชิงบวกสะท้อนมาจากการคาดการณ์ว่าการเติบโตจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง โดยหลังจากเงินเฟ้อได้ปรับตัวลงและกลับสู่เป้าหมาย ธนาคารกลางจะเริ่มใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ปรับดอกเบี้ยให้ลดลง สินทรัพย์กลุ่มนี้ที่มีความอ่อนไหวต่อสภาพการดำเนินธุรกิจสูง มักจะทำผลตอบแทนได้ดี ในช่วงกลับเข้าสู่สภาวะปกติเช่นนี้
ทั้งนี้ ไม่ใช่ทุกประเทศจะอยู่ในวัฏจักรเศรษฐกิจเดียวกันในเวลาเดียวกัน และในทุกสภาวะตลาดจะมีผู้ชนะและผู้แพ้อยู่ร่ำไป
┏━━━━━━━━━━━━━┓
ให้ Schroders ผู้บริหารพอร์ตลงทุนระดับโลกดูแลพอร์ตของคุณ
✔️บริษัทจัดการลงทุนระดับโลก Schroders เป็นที่ปรึกษาในการจัดสรรสินทรัพย์
✔️กระจายการลงทุนอย่างยืดหยุ่น
✔️ปรับพอร์ตอัตโนมัติ
✔️ลงทุนเริ่มต้นเพียง 100,000 บาท เท่านั้น
┗━━━━━━━━━━━━━┛
อยากเริ่มลงทุนแล้ว คลิก odiniapp.co/3NZCMWQ
#odini
#แอปลงทุนกองทุนรวมอัตโนมัติ
#ลงทุนง่ายได้ทุกคน
ที่มา: Schroders, 31 พ.ค. 2023