ถึงเวลาของ Metaverse? Microsoft เข้าซื้อ Activision Blizzard มูลค่า 68,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ถึงเวลาของ Metaverse? Microsoft เข้าซื้อ Activision Blizzard มูลค่า 68,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สะเทือนวงการเกม Microsoft ประกาศเข้าซื้อ Activision Blizzard ในราคา 68.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ลงทุนบริษัท Microsoft ผ่านพอร์ต odini BLACK ลงทุนอัตโนมัติ ด้วย Robo-advisor คลิก https://link.odiniapp.com/AOoac01-a0127 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://link.odiniapp.com/AOoac01-w0127 

 

เกิดอะไรขึ้นกับ “ยักษ์หลับ” อย่าง Microsoft? 

 

บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีอย่าง Microsoft ถือเป็นบริษัทผู้พัฒนาและผลิตคอมพิวเตอร์กับระบบซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เช่น Microsoft Teams Office 365 และ โปรแกรม Microsoft Office เป็นต้น อีกทั้งเป็นเจ้าของ Xbox Game Pass ที่มีจำนวนสมาชิกผู้ใช้งานปัจจุบันสูงถึง 25 ล้านคน (ที่มา Xbox  ข้อมูล ณ วันที่ 18 ม.ค. 2565) ถือว่าเป็นอัตราการเติบโตที่รวดเร็วอย่างมาก หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันจากปีก่อนยังมีสมาชิก 18 ล้านราย และ Microsoft สามารถสร้างรายได้ในไตรมาสที่ 2 ตามปีงบการเงินบริษัท 2022 (สิ้นสุดเดือนธันวาคม 2021) ได้มากถึง 52  พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 19 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ  เพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิของช่วงเวลาเดียวกันจากปีก่อนหน้าถึง 21% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ได้าดการณ์ไว้ (ที่มา Microsoft  ข้อมูล ณ วันที่ 26 ม.ค. 2565)

 

Activision Blizzard ผู้เป็นเจ้าของเกมชื่อดังที่ทุกคนทั่วโลกต่างรู้จักกัน เช่น Warcraft, Overwatch, Call of Duty และ Candy Crush ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้งานต่อเดือน ประมาณ 26 ล้านคน ด้วยรูปแบบที่หลากหลายของเกมใน Activision Blizzard จึงไม่น่าแปลกใจที่จะสามารถมัดใจเหล่าผู้เล่นเกมจากทั่วโลกได้ 

 

บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft ประกาศเข้าซื้อบริษัทเกมชื่อดังอย่าง Activision Blizzard ในราคา 68.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมากกว่า 26 พันล้านดอลลาร์ที่ Microsoft เคยจ่ายเพื่อซื้อ LinkedIn ในปี 2016 เลยทีเดียว

 

ดังนั้นดีลนี้ถือเป็นข้อตกลงที่มีมูลค่าสูงที่สุดในอุตสาหกรรมนี้เลยก็ว่าได้ อีกทั้งข้อเสนอของ Microsoft สูงกว่าระดับราคาจริงของหุ้น Activision Blizzard มากถึง 45%

 

ซึ่งข้อตกลงการเข้าซื้อกิจการของ Microsoft ในครั้งนี้เป็นการประกาศจุดยืนของ Microsoft ที่จะ

เสริมความแข็งแกร่งในการพัฒนาแพลตฟอร์ม Metaverse และ ส่งผลให้ Microsoft ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทเกมยักษ์ใหญ่ อันดับ 3 ของโลก เมื่อพิจารณาด้านรายได้จากทั่วโลกและเป็นเจ้าเกม รวมถึงพนักงานในเครือ Activision Blizzard ทั้งหมดกว่า 10,000 คน

 

อุตสาหกรรมเกมถือเป็นธุรกิจด้านความบันเทิงที่มีความน่าสนใจและมีอิทธิพลต่อใครหลาย ๆ คนเป็นอย่างมาก อีกทั้งช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเกมได้เติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนปัจจุบันมีมูลค่าตลาดประมาณ 178.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีจำนวนผู้เล่นประมาณ 2.9 พันล้านคน (ที่มา newzoo  ข้อมูล ณ วันที่ 18 ม.ค. 2565) 

 

การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ Microsoft ที่จะมีความได้เปรียบจากคู่แข่งด้านเกม และ ยิ่งได้เกมน้ำดีจาก Activision Blizzard จะยิ่งเป็นส่วนในการเสริมความแข็งแกร่งสำคัญของ Microsoft เป็นอย่างมาก ทั้งแนวคิดและความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยี VR (Virtual Reality) ที่จะช่วยผลักดันธุรกิจเกมของ Microsoft ให้เติบโตไปได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังถือเป็นการวางรากฐานสำคัญของ Microsoft ที่จะพัฒนาธุรกิจให้ไปสู่ Metaverse ในอนาคตได้

 

ทางด้านของ Bobby Kotick CEO ของ Activision Blizzard ได้ให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่ยอมขายกิจการให้แก่ Microsoft เนื่องจาก Activision Blizzard ยังถือว่าเล็กเกินไปเมื่อเทียบกับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก อีกทั้ง Bobby Kotick กล่าวว่า เกมยุคหน้าจำเป็นต้องใช้ทักษะ AI, Machine Learning, Data Analytics, Cloud และ Cybersecurity ซึ่ง Activision Blizzard ยังไม่มีสิ่งเหล่านี้เลย อีกทั้งต้นทุนในการดำเนินการค่อนข้างมีราคาที่สูงในตลาดนี้ 

 

ดังนั้น Microsoft ถือเป็นบริษัทที่ตอบโจทย์สำหรับ Activision Blizzard เป็นอย่างมาก เนื่องจาก Microsoft มีทรัพยากรทั้งด้านทรัพยากรบุคคล และ เทคโนโลยีที่สามารถเข้ามาช่วยพัฒนาและส่งเสริมเกมของ Activision Blizzard เช่น การเพิ่ม Feature ของเกม Candy Crush ให้ผู้เล่นสามารถทำการแข่งขันระหว่างกันได้ อีกทั้งมี Feature Voice/Video Over IP ให้คุยกันระหว่างเล่นเกม ซึ่งทาง Microsoft มีเทคโนโลยีในด้านนี้เตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว หรือ เกม Warcraft ของทาง Activision Blizzard ที่มีความเสมือนจริงทั้งด้านของทิวทัศน์ ตัวละคร และภารกิจประจำวันที่ให้เหล่าผู้เล่นได้เล่นและรับของรางวัล ซึ่งของรางวัลเหล่านี้ สามารถนำไปขายต่อเพื่อรับเงินได้ ซึ่งมีจากที่กล่าวไปข้างต้น เกม Warcraft มีพื้นฐานที่เหมาะแก่การนำไปพัฒนาต่อใน Metaverse ให้เหล่าผู้ใช้งานได้สัมผัสประสบการณ์ความสมจริงและโลกของเกมได้มากยิ่งขึ้น

 

การควบรวมกิจการในครั้งนี้ เป็นส่วนช่วยให้ Microsoft เจริญเติบโตในอุตสาหกรรมเกม พร้อมทั้งเป็นแรงผลักดันให้มีจำนวนผู้ใช้งานใน Xbox Game Pass เพิ่มจำนวนมากขึ้นผ่านแพลตฟอร์มที่อาจมีความหลากหลายมากกว่าเดิม ดังนั้นในอนาคตอันใกล้เราอาจจะได้เห็นเทคโนโลยี Metaverse ของ Microsoft โลดแล่นอยู่บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ จนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราก็เป็นได้

 

สามารถลงทุนใน Microsoft ได้อย่างไร?

 

ต้องขอบอกเลยว่า odini BLACK ไม่พลาดโอกาสจัดพอร์ตลงทุนใน Microsoft หากสนใจลงทุนใน Metaverse ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ ดาวน์โหลด odini แอป ได้ที่นี่ https://link.odiniapp.com/AOoac01-a0127 

 

(Source: ข้อมูล ณ วันที่ 18 ม.ค. 2565 Xbox, theverge, Robowealth)

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.