🏎️🔥 หุ้นเทคฯ ใหญ่ ฟื้นแรงแซงอีกครั้ง อะไรอยู่เบื้องหลัง? odini BLACK Schroders Growth & Income

🏎️🔥 หุ้นเทคฯ ใหญ่ ฟื้นแรงแซงอีกครั้ง อะไรอยู่เบื้องหลัง? odini BLACK Schroders Growth & Income

🏎️🔥 หุ้นเทคฯ ใหญ่ ฟื้นแรงแซงอีกครั้ง อะไรอยู่เบื้องหลัง? odini BLACK Schroders Growth & Income

หุ้นเทคสหรัฐฯ ผู้ชนะช่วงโควิด แต่แล้วก็เป็นกลุ่มที่ทำให้ผิดหวังในปี 2022 แต่ช่วงไม่นานมานี้ กลับมาฟื้นแรงแซงอีกครั้ง เพราะอะไร?

 

┏━━━━━━━━━━━━━┓
🔊DCA ผ่าน odini ได้แล้ววันนี้ ลองเลย 
┗━━━━━━━━━━━━━┛

 

 

🏎️🔥 หุ้นเทคฯ ใหญ่ ฟื้นแรงแซงอีกครั้ง อะไรอยู่เบื้องหลัง?
odini BLACK Schroders Growth & Income 

 

หุ้นเทคฯ ขนาดใหญ่สหรัฐฯ (Apple, Microsoft, Alphabet, Amazon, Tesla, Netflix and Nvidia) ได้กลับมาแซงโค้งปีนี้ หลังทำผลตอบแทนถึง 34% ช่วง 4 เดือนแรกของปี 2023 ถ้าหากไม่รวมหุ้นเหล่านี้ MSCI USA ทำผลตอบแทนได้เพียง 3% เท่านั้น
หลังจากหุ้นกลุ่มนี้ที่เป็น Pandemic winners ในปี 2020 และ 2021 จากความแข็งแกร่งของอุปสงค์ต่อผลิตภัณฑ์ แต่กลับพบกับความยากลำบากในปี 2022 สาเหตุจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและดอกเบี้ยที่เร่งตัวสูงขึ้น และดอกเบี้ยที่สูงขึ้นนั้นหมายถึงกำไรในอนาคตและกระแสเงินสดมีมูลค่าน้อยลงในวันนี้

 

จนถึงเวลานี้ เงินเฟ้อก็ยังอยู่ระดับสูง และดอกเบี้ยก็ยังไต่ขึ้น แต่แล้วอะไรที่เป็นเบื้องหลังทำให้ US big tech rally ได้? 

 

ผลตอบแทนพุ่งแรงที่เกิดขึ้นสามารถอธิบายได้ด้วย

 

1) ปัจจัยเชิงพื้นฐานที่ดีขึ้น

 

เพราะบริษัทอย่าง Microsoft และ Nvidia กำลังได้ประโยชน์จากเทรนด์ธุรกิจที่แข็งแกร่ง บริษัททั้งสองแห่งนี้เป็นผู้ชนะในเรื่องของการปฏิวัติ Generative Aritificial Intelligence และอย่าง Apple ก็เพิ่งได้รายงานผลประกอบการล่าสุดที่ฟื้นตัวได้  แสดงถึงความแข็งแกร่งที่มากกว่าบริษัทอื่นในอุตสาหกรรม

 

หลังจากแรงกดดันในปีที่แล้ว บริษัทอย่าง Amazon Alphabet Meta และ Netflix ใช้กลยุทธ์ลดต้นทุน ซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะลดต้นทุนลงอีก หลังจากการเร่งเพิ่มพนักงานใหม่ครั้งใหญ่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ และการลดต้นทุนดังกล่าวอาจจะมาในรูปแบบลดจำนวนพนักงานลง หรือในบางกรณีก็คือลดผลตอบแทนที่ให้กับพนักงาน เพราะตลาดแรงงานก็ร้อนแรงลดลง

 

ดังนั้นเราสามารถบอกได้ว่าปัจจัยเชิงพื้นฐานนั้นดีขึ้นไม่ว่าจะตัวเลขทั้งจากมุม Top Line อย่างยอดขาย และ Bottom Line อย่างการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน/การลดลงของต้นทุน นำมาซึ่งตัวกำไรที่ดีขึ้น 

 

2) Growth Rotation จากความตึงเครียดในกลุ่ม Banking

 

Growth Rotation ที่เงินลงทุนถูกหมุนมาลงในกลุ่มนี้ หลังเหตุการณ์ความตึงเครียดในกลุ่ม Banking โดยเฉพาะฝั่ง US ได้เป็นตัวเร่งให้มีการ Rotation ออกจากกลุ่ม Value

 

ความตึงเครียดนี้เอง เป็นตัวทำให้เกิดความตึงตัวในตลาดการกู้ยืม ซึ่งเกิดขึ้นไปพร้อมกับภาวะดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ถ้าหาก Fed ตัดสินใจหยุดขึ้นดอกเบี้ยเพราะเรื่องนี้ หุ้นกลุ่ม Growth อย่าง Technology ก็จะมีปัจจัยกดดันที่ลดลงนั่นเอง

 

 

┏━━━━━━━━━━━━━┓
ให้ Schroders ผู้บริหารพอร์ตลงทุนระดับโลกดูแลพอร์ตของคุณ
✔️บริษัทจัดการลงทุนระดับโลก Schroders เป็นที่ปรึกษาในการจัดสรรสินทรัพย์
✔️กระจายการลงทุนอย่างยืดหยุ่น
✔️ปรับพอร์ตอัตโนมัติ 
✔️ลงทุนเริ่มต้นเพียง 100,000 บาท 
┗━━━━━━━━━━━━━┛

 

อยากเริ่มลงทุนแล้ว คลิก odiniapp.co/3NZCMWQ
#odini
#แอปลงทุนกองทุนรวมอัตโนมัติ
#ลงทุนง่ายได้ทุกคน

 

ที่มา: Schroders, 19 พ.ค. 2023

 

*ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
 **การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน




No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.