โฮจิมินห์ซิตี้ ฮับการเงินของเวียดนาม เสือเศรษฐกิจตัวใหม่แห่งเอเชีย
หากนึกถึงประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีความน่าสนใจในการลงทุนนั้น ประเทศแรกๆ ที่นึกถึงคงจะเป็นเวียดนาม ประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับ 2 รองจากจีนในปีที่ผ่านมา ซึ่งเวียดนามเป็นประเทศที่มีปัจจัยเชิงโครงสร้างต่าง ๆ ที่เอื้อต่อการบริโภคภายในประเทศและเป็นโรงงานของโลกในอนาคต
แล้วเมืองไหนที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของเวียดนาม odini พามาดู โฮจิมินห์ซิตี้ หรือชื่อเดิมที่เรียกกันว่าไซ่ง่อน ในเมืองนี้มีประชากรมากกว่า 9 ล้านคน
ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีทรัพยากรแรงงานมากที่สุดในประเทศ เมืองนี้จึงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของทั้งประเทศ ทำให้เศรษฐกิจเวียดนามแข็งแกร่งขึ้นได้ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามด้วย
หากกล่าวถึงปัจจัยส่งเสริมความน่าลงทุน นั้นคือ ปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ โฮจิมินห์ซิตี้มีการเติบโตที่แข็งแกร่งเกือบทุกภาคเศรษฐกิจ โดยช่วงปี 2016 – 2020 มีการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 7.22% คิดเป็น 22.2% ของผลผลิตทางเศรษฐกิจของเวียดนาม
โฮจิมินห์ซิตี้เป็นแหล่งรวมตัวขององค์กรชื่อดังต่าง ๆ เกือบ 150,000 แห่ง ตั้งแต่สตาร์ทอัพ เอสเอ็มอี ไปจนถึงบริษัทระหว่างประเทศขนาดใหญ่ และมีแรงงานประมาณ 2.5 ล้านคน
อีกปัจจัยที่สำคัญ คือ ปัจจัยทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน โฮจิมินห์ซิตี้มีโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการพัฒนาอย่างดี เพื่อรองรับการผลิตและการค้าระหว่างประเทศ
โดยมีท่าเรือกั๊กไล (Cat Lai) รองรับการขนส่งสินค้ามากกว่า 121 ล้านตันต่อปี
สนามบินนานาชาติเตินเซินเญิ้ต เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ให้บริการผู้โดยสาร 38 ล้านคนต่อปี
โฮจิมินห์ซิตี้ยังสามารถเข้าถึงสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงได้เป็นอย่างดี ด้วยการขนส่งผ่านทางด่วนสาย HCMC – Can Tho การเดินทางไปยังภาคกลางของเวียดนามด้วยการขนส่งผ่านทางด่วนสาย HCMC – Dau Giay และไปยังกัมพูชาด้วยการขนส่งผ่านถนนนานาชาติหมายเลข 22
โฮจิมินห์ซิตี้มีเขตอุตสาหกรรมทั้งหมด 19 เขต ได้แก่
เขตอุตสาหกรรมแปรรูปเพื่อการส่งออก 3 แห่ง
เขตอุตสาหกรรมโรงงาน 14 แห่ง
เขตอุตสาหกรรมไฮเทค 2 แห่ง
ด้วยความน่าสนใจของสถานที่ตั้งและพื้นที่อุตสาหกรรมที่มีอยู่อย่างจำกัด รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับโครงการสีเขียวไฮเทคและมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นในทุก ๆ ปี ทำให้พื้นที่้เขตอุตสาหกรรมในโฮจิมินห์ซิตี้มีอัตราการเช่าซื้อสูงที่สุดในเวียดนาม
ปัจจัยที่สำคัญสุดท้าย คือ การลงทุนจากต่างชาติ ในปี 2020 ถือได้ว่าบทบาทของทุนต่างชาติในประเทศนั้นมีความสำคัญไม่น้อย โดยการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มีมูลค่าโครงการ ในช่วง 11 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 17,000 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมทั้งหมด 32,915 โครงการ
ด้วยศักยภาพความแข็งแกร่ง และโอกาสการเติบโตของภาคการผลิต และการบริโภคของเวียดนามจะเป็นปัจจัยผลักดันให้ตลาดหุ้นเวียดนามซึ่งมีสัดส่วนหลักมาจากภาคการเงิน อสังหาริมทรัพย์ และอาหารมีการเติบโตมากยิ่งขึ้น
สามารถลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามผ่าน odini BLACK ได้เลยเพียงโหลดแอป (Link)
โอดีนีอยากบอก
โฮจิมินห์ซิตี้เป็นแหล่งที่ตั้งบริษัทตัวท็อปมากมาย เช่น Procter & Gamble
Nestlé, Intel Corporation, Unilever, Grab, Samsung, Shopee, Google, Microsoft, Apple, Garena Online, Agoda และอื่น ๆ อีกมากมาย
Source : Vietnam Briefing, Nhandan, Average Salary Survey, Glassdoor