อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน แต่ไม่ได้แปลว่าเดาไม่ได้ โดย odini UA

อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน แต่ไม่ได้แปลว่าเดาไม่ได้ โดย odini UA

          1.หุ่นยนต์ที่ฉลาดมากขึ้น

 

ประชากรวัยทำงานลดลง

 

แรงงานลดลงแปลว่าค่าแรงจะสูงขึ้น

 

นี่คือแรงส่งให้ประเทศพัฒนาแล้วพัฒนาการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาใช้

 

อีกนานแค่ไหน???

 

ปัจจุบันถ้าจะแทนมนุษย์ทั้งหมดยังต้องใช้เวลา แต่นี่คือสัญญาณบวกที่เกิดขึ้น

 

  • รถแทรกเตอร์ขับเคลื่อนอัตโนมัติและอุปกรณ์ฉีดพ่นที่มีความแม่นยำของ Deere & Co 
  • หุ่นยนต์จำนวนมากที่ขนส่งสินค้าไปรอบ ๆ คลังสินค้าอีคอมเมิร์ซของ Amazon และ Coupang

 

แต่ยิ่งเครื่องจักรยิ่งฉลาดเท่าไร ยิ่งต้องใช้พลังประมวลผลมากขึ้นเท่านั้น

 

โดย NVIDIA และบริษัทอื่น ๆ คาดการณ์ถึงภาพอนาคตว่าโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่เพิ่มพลังให้กับแชทบอทจะสร้าง ‘เครื่องจักรอัจฉริยะ’ จะกระตุ้นความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงมากขึ้น 

 

โดยภาพที่เห็นคือในอนาคตจะมีอุปสงค์จำนวนมากสำหรับส่วนประกอบดังกล่าว แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่าหุ่นยนต์จะถูกนำไปใช้อย่างไรก็ตาม

 

          2.เทคโนโลยีสุขภาพ + เทคโนโลยีข้อมูล

 

ยาใหม่ ๆ จะขาดการออกแบบจาก Big Data และ AI ไม่ได้

 

ตัวอย่างเช่น Illumina ลดต้นทุนการหาลำดับยีนลงอย่างมาก

 

โดยเทคโนโลยี Big Data + AI มีศักยภาพในการเร่งการค้นพบยาและลดต้นทุน

 

ทำไมการลดต้นทุนถึงสำคัญ???

 

เหตุผลเพราะบริษัทยาเองก็เจอแรงกดดันด้านเงินทุน ทำให้การลดต้นทุนเพื่อผลักดันการรักษาที่ราคาไม่แพง + มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อให้เข้าถึงทุกคนเป็นเรื่องจำเป็น

 

          3.การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน

 

การเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนคือแนวโน้มที่หลีกเลี่ยงได้ยาก

 

สมมติว่าตัดเรื่องสภาพอากาศออกไป เชื้อเพลิงฟอสซิลและการแยกนิวเคลียร์ยังมีข้อได้เปรียบในการให้พลังงานที่เชื่อถือได้ แต่ในระยะยาว การสร้างไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และลมมีราคาถูกกว่า

 

แต่ปัญหาคือเรายังไม่สามารถจัดเก็บมันได้ แต่มีบริษัทต่าง ๆ ที่กำลังทำเรื่องท้าทายเพื่อแก้ไขปัญหานี้

 

เช่น Redwood Materials กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างส่วนประกอบแบตเตอรี่ที่สำคัญจากเศษซากที่รีไซเคิลและนำกลับมาใช้ใหม่

 

รวมไปถึงโอกาสผ่านเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ไม่มีใครรู้จักอย่าง Prysmian และ Nexans สายเคเบิลใต้น้ำและใต้ดินแรงดันสูงพิเศษเพื่อเชื่อมต่อพลังงานจากกังหันลมนอกชายฝั่งมาใช้ในผืนแผ่นดิน 

 

โดยทั้งสองบริษัทกำลังพัฒนาโซลูชัน ‘กริดอัจฉริยะ’ เพื่อทำให้การจัดการพลังงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

 

อีกบริษัทที่น่าสนใจคือ Enphase 

 

โดยบริษัทผลิตและติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับบ้านและธุรกิจในสหรัฐอเมริกา เห็นได้ชัดว่าเป็นธุรกิจครอบคลุมระดับท้องถิ่นด้วย จึงมีบทบาทสำคัญในการสร้างกริดแบบกระจายนี้ ซึ่งแนวทางเช่นนี้ไม่เคยมีอยู่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว

         

          4.ระบบการชำระเงินแห่งอนาคต

 

ธุรกรรมไร้เงินสดของเราจะเติบโตขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

 

หลายคนรู้จัก Netflix, Booking.com และ McDonald’s

 

น้อยคนรู้จัก บริษัทชำระเงินเบื้องหลังอย่าง Ayden

 

Ayden คือบริษัทที่ช่วยให้ Netflix, Booking.com, McDonald’s และอื่น ๆ อีกมากมายรับการชำระเงินในส่วนต่าง ๆ ของโลกในหลายสกุลเงิน 

 

จากนั้นจึงโอนไปยังที่ที่พวกเขาต้องการได้อย่างราบรื่น

 

Baillie Gifford มองว่าบริษัทฟินเทคที่มุ่งเน้นผู้บริโภคที่มีบริการที่เหนือกว่าและค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าผู้เล่นเดิมในอุตสาหกรรมก็ควรจะเจริญรุ่งเรืองในอนาคตเช่นกัน

 

ในอดีต มันตลกมากเมื่อธนาคารแบบดั้งเดิมพูดถึงการให้บริการแลกเปลี่ยนที่ไม่คิดค่าคอมมิชชั่น 

 

แต่คิดค่าส่วนต่าง 10 เปอร์เซ็นต์

 

ช่องว่างการฉกชิงประโยชน์ของธนาคารคารใหญ่นั้นกำลังถูกทำลายลง เพราะแอปฟินเทคเหล่านี้ยังให้คุณเปลี่ยนสกุลเงินของคุณได้ในพริบตา

 

┏━━━━━━━━━━━━━┓

odini BLACK Ultimate Allocation

✔️นโยบายการลงทุนที่สามารถปรับระดับความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนให้เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา

✔️เพิ่มความยืดหยุ่นด้วยการทยอยเพิ่มหรือลดน้ำหนักการลงทุนให้เหมาะสม

✔️ดำเนินการโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ พร้อมปรับพอร์ตอัตโนมัติ

✔️ทีมบริหารพอร์ตร่วมใช้เงินลงทุน

✔️ลงทุนเริ่มต้นเพียง 100,000 บาท

หากสนใจเริ่มลงทุน คลิก odiniapp.co/3NZCMWQ

┗━━━━━━━━━━━━━┛

 

#odini

#แอปลงทุนกองทุนรวมอัตโนมัติ

#ลงทุนง่ายได้ทุกคน

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.