สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนในสินค้าอะไรบ้าง
สหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีนหลายรายการ ในสินค้าหลายกลุ่มอุตสาหกรรม มูลค่ากว่า 1.8 หมื่นล้านเหรียญ โดยภาษีที่ปรับขึ้นใหม่นี้ส่วนใหญ่จะมีผลบังคับใช้ในปีนี้
ทำให้มูลค่ารวมตอนนี้ที่สินค้าจีนต้องแบกรับภาษีการนำเข้าจากสหรัฐฯ คือมากกว่า 3 แสนล้านเหรียญ!
ปัจจัยดังกล่าวสร้างความกังวลให้แก่นักลงทุนเป็นอย่างมาก
แต่เรื่องราวดังกล่าวน่ากังวลจริงไหม odini จะพาไปหาคำตอบกันครับ
- ยานยนต์ไฟฟ้า – ขึ้นภาษีจากเดิม 25% เป็น 100% ในปี 2024
- เซมิคอนดักเตอร์ – ขึ้นภาษีจากเดิม 25% เป็น 50% ในปี 2025
- แผงโซลาร์ – ขึ้นภาษีจากเดิม 25% เป็น 50% ในปี 2024
- กระบอกฉีดยา และเข็มฉีดยา – ขึ้นภาษีเป็น 50% ในปี 2024
- เหล็กและอะลูมิเนียม – ขึ้นภาษีจากเดิม 7.5% เป็น 25% ในปี 2024
- แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า – ขึ้นภาษีจากเดิม 7.5% เป็น 25% ในปี 2024
- แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่ไม่ใช่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า- ขึ้นภาษีจากเดิม 7.5% เป็น 25% ในปี 2026
- ชิ้นส่วนแบตเตอรี่ – ขึ้นภาษีจากเดิม 7.5% เป็น 25% ในปี 2024
- อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล – ขึ้นภาษีจากเดิม 7.5% เป็น 25% ในปี 2024
- ถุงมือยาง – ขึ้นภาษีจากเดิม 7.5% เป็น 25% ในปี 2026
- แกรไฟต์ธรรมชาติ และแม่เหล็กถาวร – ขึ้นภาษีเป็น 25% ในปี 2026
- แร่ธาตุสำคัญอื่น ๆ – ขึ้นภาษีเป็น 25% ในปี 2024
- เครนยกสินค้าจากเรือขึ้นฝั่ง – ขึ้นภาษีจเป็น 25% ในปี 2024
กระทบตลาดหุ้นจีนขนาดไหน?
แม้เศรษฐกิจจีนพึ่งพาการส่งออกสูง แต่หุ้นจีนในดัชนี MSCI China มีรายได้จากต่างประเทศน้อยมาก โดยคิดเป็นเพียง 13%
ทั้งนี้รายได้จากสหรัฐฯ มีเพียง 3% โดยอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ครั้งนี้ คือ กลุ่มสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วน ซึ่งคิดเป็นเพียง 4.5% ของดัชนี
อย่างไรก็ตามภาษีอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และตอกย้ำความไม่แน่นอนของตลาดจีน
กระทบเศรษฐกิจจีนขนาดไหน?
Morgan Stanley มองว่าภาษีสหรัฐฯ รอบใหม่ส่งผลกระทบต่อจีนน้อยมาก และมองว่ามาตรการนี้เป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์มากกว่า เนื่องจากสินค้าที่ได้รับผลกระทบมีสัดส่วนเพียง 0.5% ของการส่งออกจีนทั่วโลก และ 4% ของการส่งออกจีนไปยังสหรัฐฯ เท่านั้น
โดย Morgan Stanley ยังคงคาดการณ์ว่าการส่งออกของจีนจะเติบโตได้ 8% ในปีนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการคาดการณ์การเติบโตของจีน 4.8% ในปี 2024
จีนมีแผนจะแก้เกมได้ 2 แนวทาง
Morgan Stanley มองว่าจีนสามารถหาทางประนีประนอมลดความตึงเครียด โดยมีแนวทาง 2 ทาง
แนวทางแรกก็คือการส่งเสริมให้บริษัทจีนลงทุนโดยตรงในต่างประเทศมากขึ้น ท่ามกลางความพยายามของนานาประเทศที่ต้องการกระจายห่วงโซ่อุปทานออกจากจีนในปัจจุบัน
แนวทางนี้มีผลกระทบเชิงบวกต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของจีน เนื่องจากการลงทุนช่วยสร้างงานและถ่ายทอดเทคโนโลยีไปยังประเทศปลายทาง
ส่วนแนวทางที่สองคือ เน้นการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งในตอนนี้ยังเผชิญความยากลำบากอยู่ สำหรับระยะยาวจีนอาจจะส่งเสริมระบบสวัสดิการให้แก่ประชาชน เพื่อให้ประชาชนนำเงินออมส่วนเกินไปลงทุน ซึ่งก็จะสามารถแปรเปลี่ยนรายได้จากการส่งออกไปเป็นการนำเข้าต่อไป และทำให้ลดปัญหาความไม่สมดุลทางการค้ากับคู่ค้า
ประเด็นที่ต้องจับตามอง
ถึงฟังดูแล้วภาษีครั้งนี้กระทบเศรษฐกิจและตลาดหุ้นจีนไม่มาก แต่ก็ต้องจับตามองอยู่ เนื่องจากจีนมีการส่งออกยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ลิเธียม แผงโซลาเซลล์ และเซมิคอนดักเตอร์ของจีน ไปยังประเทศกลุ่มยูโร ซึ่งเป็นพันธมิตกับสหรัฐฯ ด้วย
แล้วต้องปรับพอร์ตอย่างไร?
สำหรับลูกค้า odini BLACK Ultimate Allocaiton ไม่ต้องห่วง เราจัดการปรับพอร์ตให้ในทุกจังหวะ ทำให้คุณได้เอาเวลาไปโฟกัสกับชีวิตในมิติที่อยากใช้ได้เลยครับ
┏━━━━━━━━━━━━━┓
odini BLACK Ultimate Allocation
✔️นโยบายการลงทุนที่สามารถปรับระดับความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนให้เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา
✔️เพิ่มความยืดหยุ่นด้วยการทยอยเพิ่มหรือลดน้ำหนักการลงทุนให้เหมาะสม
✔️ดำเนินการโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ พร้อมปรับพอร์ตอัตโนมัติ
✔️ทีมบริหารพอร์ตร่วมใช้เงินลงทุน
✔️ลงทุนเริ่มต้นเพียง 100,000 บาท
หากสนใจเริ่มลงทุน คลิก odiniapp.co/3NZCMWQ
┗━━━━━━━━━━━━━┛
#odini
#แอปลงทุนกองทุนรวมอัตโนมัติ
#ลงทุนง่ายได้ทุกคน
อ้างอิง https://www.visualcapitalist.com/comparing-new-and-current-u-s-tariffs-on-chinese-imports/ และ Mongan Stanley
*ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
**การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน