ปี 2022 ปีแห่งจุดเปลี่ยน เรื่องอะไรเป็นที่น่าจดจำและนำมาเป็นบทเรียนอันล้ำค่า?
┏━━━━━━━━━━━━━┓
🔊ไม่บอกไม่ได้! พอร์ต odini BLACK Schroders Growth & Income ยังลงทุนเริ่มต้นเพียง 50,000 บาท เท่านั้น และไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือเก่าหรือมือใหม่ก็สามารถลงทุนได้แล้ววันนี้
┗━━━━━━━━━━━━━┛
10 จุดเปลี่ยนและบทเรียนอันล้ำค่า แห่งปี 2022 odini BLACK Schroders Growth & Income
1.ตราสารหนี้ไม่ได้ช่วยกระจายความเสี่ยง
ตั้งแต่ช่วงปลาย 1990s ราคาหุ้นและตราสารหนี้ไปคนละทิศทางกัน คือเมื่อราคาหุ้นปรับขึ้น ราคาตราสารหนี้ได้ปรับลง หรือเมื่อราคาหุ้นปรับลง ราคาตราสารหนี้ได้ปรับขึ้น ทำให้การจัดพอร์ตได้รับโยชน์ จากการกระจายความเสี่ยง แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของนโยบายทางการเงินจากเงินเฟ้อได้ทำลายข้อสมมติฐานนี้
.
2.พอร์ต 60/40 ทำผลตอบแทนแพ้เงินเฟ้อ แย่ที่สุดรอบเกือบศตวรรษ
จากเหตุการณ์ถูกเทขายของทั้งตราสารหนี้และหุ้น ที่หุ้นสหรัฐฯ ราคาดิ่ง 18% ปีที่แล้ว ด้วยเงินเฟ้อมาถึง 6% (จริง ๆ ก็ยังไม่ได้แย่ที่สุด) แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือด้วยตราสารหนี้รัฐบาลระยะยาวก็มีราคาดิ่งลงที่สุด พอร์ตโฟลิโอหุ้นต่อตราสารหนี้ 60/40 ทำผลตอบแทนได้แพ้เงินเฟ้อกว่า 28% ในปี 2022
.
3.ตราสารหนี้ได้กลับมาแล้ว จากอัตราผลตอบแทนปรับสูงขึ้น
การเทขายตราสารหนี้มาจากการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้รัฐบาล รวมถึง Credit Spread ผลคือตราสารหนี้ได้ให้อัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมามากแล้ว
มากกว่า 60% ของตราสารหนี้ Investment grade corporate ทั่วโลกมีอัตราผลตอบแทนสูงกว่า 5% แล้ว (ในขณะที่ 12 เดือนที่ผ่านมาอยู่เพียงราว 0.25% กลุ่มอื่น ๆ ก็เช่นกันที่ให้อัตราผลตอบแทนต่ำ) และต่อให้อัตราผลตอบแทนปรับขึ้นอีกถึง 2% ก็ยังช่วยให้ไม่ขาดทุนได้ เทียบกับปีที่ผ่านมาที่ขึ้นได้แค่ 0.5% นี่คือ Margin of Safety ที่ดีขึ้น และถือเป็นระดับที่เหมาะสมป้องกันความเสี่ยงขาดทุนในอนาคตได้เป็นอย่างดี
.
4.สภาพแวดล้อมดอกเบี้ยต่ำติดลบได้สิ้นสุดลงแล้ว
สัดส่วนตราสารหนี้ทั่วโลกที่ให้ผลตอบแทนติดลบเคยสูงถึงระดับ 30% ซึ่งแม้กระทั่งกลุ่ม High Yield ยังให้ผลตอบแทนติดลบได้
การที่ตราสารหนี้ให้ผลตอบแทนติดลบ หมายถึง นักลงทุนที่ซื้อและถือจนครบอายุ กลับได้รับการันตีเพียงแค่ว่าจะได้คืนน้อยกว่าที่ลงทุน (ผลตอบแทนรูปตัวเงิน) แต่สิ่งนี้กำลังอันตรธานหายไป
.
5.ตราสารหนี้หลายกลุ่มให้ผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นในรอบหลายปี
จากแต่เดิมนักลงทุนสาย Income ต้องพึ่งพาแต่การลงทุนในหุ้น แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้นแล้ว
.
6.อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ที่สูงขึ้น มาพร้อมกับภาระต้นทุนและดอกเบี้ยการกู้บ้านที่สูงขึ้น
ราคาบ้านได้ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับรายได้ในรอบหลายปี แต่จากสภาวะดอกเบี้ยต่ำ ได้ช่วยประคองให้คนมีกำลังซื้อไว้ ด้วยอัตราดอกเบี้ยตอนนี้ที่สูงขึ้นมา อาจจะต้องให้ราคาบ้านปรับลดลงกว่า 30% เพื่อให้ยอดการชำระรายเดือนอยู่ใกล้เคียงกับช่วงก่อนหน้านี้ เพราะฉะนั้นกลุ่มที่จะต้องทำการ Refinance จะประสบปัญหา
.
7.ตลาดหุ้นที่เป็นผู้ชนะได้กลายเป็นผู้แพ้ ขณะที่ผู้แพ้ก็เป็นผู้แพ้ได้
ในปี 2021 หุ้นสหรัฐฯ ทำผลตอบแทนได้ดีที่สุดขณะที่หุ้นกลุ่มตลาดใหม่ทำผลตอบแทนได้แย่ที่สุด ขณะที่ในปี 2022 ทั้งสองกลุ่มทำผลตอบแทนได้แย่ที่สุด
ข้อที่น่าสังเกตคือตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำผลตอบแทนแย่จากหุ้นขนาดใหญ่ที่สุดเพียง 7 บริษัท ที่เคยเป็นตัวขับเคลื่อนผลตอบแทนหลักในหลายช่วงเวลาที่ผ่านมา
.
8.หุ้น Value ชนะ Growth ขนานใหญ่ พอร์ตโฟลิโอต้องให้ความสำคัญกับทุกองค์ประกอบ
แม้ปี 2022 การถือหุ้นกับตราสารหนี้จะไม่ได้ช่วยสำหรับการจัดพอร์ตโฟลิโอ แต่การถือหุ้น Value ช่วย
หุ้นสหรัฐฯ ถือเป็นกว่า 70% ของหุ้นโลก และเต็มไปด้วย Mega-cap growth เมื่อหุ้น Growth ทำผลตอบแทนแย่ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็แย่ และตลาดหุ้นโลกก็แย่ด้วย พอร์ตโฟลิโอก็ได้รับผลกระทบจากทุก ๆ ส่วน หรือตลาดอื่น ๆ เช่น ตลาดเกิดใหม่ ที่จีน เกาหลี และไต้หวัน รวมกันก็มีสัดส่วนกว่า 57% หรือเพียงแค่จีนเองก็มีถึง 32% ดังนั้นการลงทุนจึงต้องให้ความสำคัญกับทุก ๆ องค์ประกอบของพอร์ตโฟลิโอ ไม่ว่าจะดัชนี เซกเตอร์ สไตล์ หรือภูมิภาค
.
9.Supply disruption จากโควิดหรือความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้เกิดกระแส ‘Reshoring’
การวิเคราะห์ข้อความจากรายงานผลประกอบการของบริษัทสหรัฐฯ ได้พูดถึง ‘Reshoring’ คือบริษัทได้วางแผนที่จะกระจายความเสี่ยงด้านการผลิตและกลับมาตั้งรกรากใกล้บ้านมากขึ้น
ซึ่งนี่อาจหมายถึงยุคแห่งเงินฝืดจะจบลง การผลิตด้วยต้นทุนต่ำจากจีนและโลกาภิวัตน์ที่สูญหายไป
.
10.การเปลี่ยนแปลงสู่ ‘พลังงานทางเลือก’ เร่งตัว
ความขัดแย้งของรัสเซีย-ยูเครนทำให้เกิดวิกฤตพลังงานทั่วโลก ราคาพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลที่พุ่งขึ้นเพราะรัสเซียได้ถูกคว่ำบาตร แต่ผลดีคือสิ่งนี้เป็นตัวเร่งการขยายการลงทุนในพลังงานทางเลือก
จากการคาดการณ์ช่วงปีก่อนหน้า กว่า 30% ของการขยายกำลังผลิตได้ถูกปรับเพิ่มขึ้นอีก ในปี 2027 ผลคือกำลังการผลิตเกือบ 75% จะเติบโตขึ้น ระหว่างปี 2022 และ 2027 และอ้างอิงจาก IEA จีน ยุโรป สหรัฐฯ และอินเดียได้ปฏิรูปนโยบายและกฎเกณฑ์เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงสู่พลังงานทางเลือก เร็วกว่าที่่คาดการณ์ไว้เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน
.
┏━━━━━━━━━━━━━┓
ให้ Schroders ผู้บริหารพอร์ตลงทุนระดับโลกดูแลพอร์ตของคุณ
✔️บริษัทจัดการลงทุนระดับโลก Schroders เป็นที่ปรึกษาในการจัดสรรสินทรัพย์
✔️กระจายการลงทุนอย่างยืดหยุ่น
✔️ปรับพอร์ตอัตโนมัติ
✔️ลงทุนเริ่มต้นเพียง 50,000 บาท เท่านั้น
┗━━━━━━━━━━━━━┛
อยากเริ่มลงทุนแล้ว คลิก odiniapp.co/3NZCMWQ
#odini
#แอปลงทุนกองทุนรวมอัตโนมัติ
#ลงทุนง่ายได้ทุกคน
ที่มา: Schroders, 24 ม.ค. 2023
*ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
**การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน