จีนผ่อนปรนนโยบาย อะลุ่มอล่วยถึงไหนแล้ว สรุปครบจบโพสต์เดียว
🇨🇳🚩 จีนผ่อนปรนนโยบาย อะลุ่มอล่วยถึงไหนแล้ว สรุปครบจบโพสต์เดียว
หลังจากที่จีนเจอศึกรอบด้านมาตลอด 3 ปี ทั้งปัญหาเศรษฐกิจจากฟองสบู่ภาคอสังหาฯ หรือปัญหาด้านสาธารณสุขจากการระบาดของ Covid-19 ที่ทำให้ต้องล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด
.
แต่ทางการเองไม่ได้มีการนิ่งเฉย พวกเขาเองได้การเรียนรู้และปรับตัวด้วยการปรับเปลี่ยนนโยบายหลายอย่างที่เคยเข้มงวดจนตึง ให้ผ่อนคลายขึ้น
.
แล้วนโยบายที่เคยกดดันเศรษฐกิจจีนจนทำให้หลายท่านกังวล ตอนนี้เป็นอย่างไร อันไหนถูกอะลุ่มอล่วยไปแล้วบ้าง โพสต์นี้สรุปให้
.
🚩Zero-Covid
จีนค่อย ๆ ผ่อนปรนนโยบายเกี่ยวกับ Covid ทีละเล็กละน้อย จนในวันที่ 8 ม.ค 66 จีนได้เริ่มต้นเปิดพรมแดนระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง
.
สถานการณ์ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนเริ่มออกท่องโลกอีกครั้ง โดยตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา ทางการได้อนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวสามารถนำนักท่องเที่ยวชาวจีนเที่ยวทัวร์แบบเหมาลำไปยังประเทศต่าง ๆ ที่กำหนดได้แล้ว เรียกได้ว่าการปล่อยถึงขั้นนี้น่าจะเป็นตอนจบของ Covid ในจีนเลยก็ว่าได้
.
🚩นโยบาย Common Prosperity และ Big Tech Control
นโยบาย “มั่งคั่งร่วมกัน” หรือ Common Prosperity เป็นนโยบายที่ทางการจีนต้องการกระจายควมมั่งคั่ง ลดความเหลื่อมล้ำแก่คนในสังคม โดยนโยบายดังกล่าวได้ถูกนำมาสู่มาตรการคุมเข้มใช้ในหลายมิติ ตั้งแต่ การห้ามบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Ant Group เข้า IPO การลงดาบโรงเรียนกวดวิชา หรือแม้กระทั่งการกำหนดเวลาเล่นเกมส์สำหรับเด็ก เป็นต้น
.
และอย่างที่รู้กันว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้คงหนีไม่พ้น China Big Tech อย่าง Alibaba หรือ Tencent เป็นต้น รวมไปถึงผู้ถือหุ้นจีนอย่างเรา ๆ
.
เราจะเห็นได้จากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หุ้น Big Tech หลายตัวโดนทางการจีนทำสิ่งที่เรียกว่า “ปรับโครงสร้าง” ทั้งสถานเบาอย่างเรียกไปปรับทัศนคติให้ต่อจากนี้ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด ห้ามผูกขาด หรือเก็บข้อมูลส่วนตัวเยอะเกินไป จนไปถึงสถานหนักอย่างสั่งให้จ่ายค่าปรับ
.
ทว่าภายหลังจากที่สู้รบปรบมือกับโรคระบาดมาอย่างยาวนาน จีนเองก็บอบช้ำ ตัวเลข GDP โตแค่ 3% เท่านั้น ทำให้เราจะเริ่มเห็นนโยบายผ่อนปรนกับอะไรที่เคยเข้มงวด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั่นเอง
.
ทำให้ล่าสุดทางการจีนเองก็ได้เห็นว่าจากเส้นที่พวกเขาได้ขีด ทำให้พวกบริษัท Big Tech เหล่านี้สามารถอยู่ในกรอบได้ผล ก็เริ่มผ่อนปรนมากขึ้น โดยเราเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกจากการที่ทางการไฟเขียวให้ Ant Group สามารถกลับมาระดมทุนได้อีกครั้ง หลังจากโดนปรับโครงสร้างไปหลายครั้ง
.
🚩Three Red Lines
ทางการจีนมีมาตรการ “Three Red Lines” ที่ไว้ควบคุมความร้อนแรงของการเก็งกำไรภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยกำหนดเพดานของการก่อหนี้ด้วยการบังคับให้บริษัทอสังหาถูกจำกัดให้มีอัตราส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์ (Debt to Asset Ratio) น้อยกว่า 70% อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Net Debt to Equity Ratio) น้อยกว่า 100% ส่วนนโยบายด้านสภาพคล่องกำหนดให้บริษัทต้องมีอัตราส่วนเงินสดต่อหนี้สินระยะสั้น (Cash to Short-term debt) มากกว่า 1 เท่า
.
แต่ในตอนนี้ทางการจีนเองก็ต้องผ่อนคลายนโยบายเหล่านี้เพื่อกระตุ้นภาคอสังหาที่ซบเซา โดยมีประเด็นสำคัญ คือ
- สนับสนุนการเข้าถึงสภาพคล่องของบริษัทอสังหาฯ
- ผ่อนผันการชำระหนี้
- ผ่อนคลายข้อจำกัดการปล่อยสินเชื่อ
- รวมไปถึงกำหนดดอกเบี้ยสินเชื่อที่เหมาะสมเพื่อกระตุ้นอุปสงค์ของผู้ซื้อบ้านอีกด้วย
.
┏━━━━━━━━━━━━━┓
odini BLACK Ultimate Allocation
✔️นโยบายการลงทุนที่สามารถปรับระดับความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนให้เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา
✔️เพิ่มความยืดหยุ่นด้วยการทยอยเพิ่มหรือลดน้ําหนักการลงทุนให้เหมาะสม
✔️ดำเนินการโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ พร้อมปรับพอร์ตอัตโนมัติ
✔️ลงทุนเริ่มต้นเพียง 100,000 บาทเท่านั้น
หากสนใจเริ่มลงทุน คลิก odiniapp.co/3NZCMWQ
┗━━━━━━━━━━━━━┛
#odini
#แอปลงทุนกองทุนรวมอัตโนมัติ
#ลงทุนง่ายได้ทุกคน
อ้างอิง
www.aljazeera.com/economy/2023/1/6/china-may-ease-three-red-lines-property-rules-bloomberg