การปรับตัวกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ของนักลงทุนในยุคโควิด

การปรับตัวกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ของนักลงทุนในยุคโควิด

ท่ามกลางวิกฤตการระบาดของโคโรน่าไวรัส (COVID-19) แนวโน้มของสถานการณ์ดูไม่ค่อยจะสู้ดีนัก อีกทั้งโครงสร้างเศรษฐกิจและโครงสร้างภาคธุรกิจสร้างผล กระทบที่เกิดขึ้นกับแรงงานไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น มุมมองการลงทุนในช่วงสถานการณ์ COVID-19 แบบนี้ เราจะติดตามเทรนด์หรือเกาะกระแสของการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร เพื่อให้รู้เท่าทันและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง เรามีคำตอบค่ะ

 

 

1. การฟื้นตัวของเศรษฐกิจแบบ K-Shaped ของทั่วโลกที่ไม่พร้อมกัน 

ยกตัวอย่างเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้ไว อาทิ เช่น จีน และอเมริกา หรือที่ใกล้เคียงกับประเทศไทยเราอย่างเวียดนาม ถึงแม้เศรษฐกิจอาจจะไม่ได้ฟื้นตัวได้ดีเท่ากับจีน และอเมริกา แต่เวียดนามสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยอุปสงค์ในประเทศ (Domestic Demand) อันประกอบไปด้วย การใช้จ่ายด้านบริโภค (Consumption expenditure) และการใช้จ่ายด้านการลงทุน (Investment) ของทั้งภาคเอกชน (Private) และภาครัฐ (Public) รวมถึงเวียดนามเน้นการส่งออกสูง มีศักยภาพในการดึงดูดเงินลงทุนจากต่างชาติที่โดดเด่น ที่สุดในอาเซียน และความได้เปรียบด้านต้นทุนแรงงานที่ต่ำ ทำให้เศรษฐกิจเวียดนามเติบโตอย่างน่าจับตามองในสายตาของนักลงทุนทั่วโลก

ในส่วนของจีน ประเทศมหาอำนาจของโลก ที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ2 ซึ่งจีนเองก็ผ่านวิกฤติการระบาดของ COVID-19 และเศรษฐกิจก็กลับมาฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสดีที่จะลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพ เพื่อการเติบโตในระยะยาว โดยมีภาคธุรกิจที่น่าจับตามอง อาทิ New economy เช่น ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ แพลตฟอร์ม, บริษัท Fintech ชั้นนำในประเทศจีน, ระบบคลาวด์ เป็นต้น หรือ Old economy เช่น ธุรกิจก่อสร้าง, ธุรกิจธนาคาร, ธุรกิจการบิน, ธุรกิจโรงงาน, ธุรกิจค้าปลีก-ส่ง, ธุรกิจประกัน เป็นต้น

 

 

2. เทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจการเงิน หรือ Fintech 

เทรนด์ปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) ที่จะเข้ามาเปลี่ยนกระบวนการและวิธีการทำงาน ทำให้ลดความยุ่งยาก ซับซ้อน และขั้นตอนที่ไม่จำเป็นออกไป โดยอุตสาหกรรมที่สนับสนุน AI ได้แก่ Semiconductor, Data Center, Cloud Computing, Digital Healthcare, โลกเสมือนจริง (Virtual World) ที่มีการจำลองสภาพแวดล้อม ผ่านเครือข่ายออนไลน์ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และรองรับการใช้งานของผู้ใช้ได้หลายคน

ในเรื่องของเม็ดเงินหรืองบประมาณในเรื่อง Digital Transformation Technologies and Services Worldwide พบว่า ปี 2017 ถึง ปี 2024 มีแนวโน้มเติบโตถึง 76%  (ข้อมูลอ้างอิงจาก: STATISTA) โดยเฉพาะงบประมาณจากธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งการลงทุนขององค์การในด้านดิจิตอลนั้น เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย (Saving) และปรับเปลี่ยนระบบและขั้นตอนการดำเนินงานภายในองค์กรให้ดีขึ้น ทั้งในเรื่องเทคโนโลยี การจัดการข้อมูล ขั้นตอนการปฏิบัติงาน และการบริหารโครงสร้างองค์กร

ในระดับต่อไปคือ Robotic Process Automation (RPA) หรือการใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติเพื่อเพิ่มศักยภาพการทำงาน ลดต้นทุน ลดความผิดพลาดในการทำงานและความซับซ้อนของงานให้มีประสิทธิภาพ โดยส่วนหลักๆ ที่คนนำ RPA ไปใช้งาน ได้แก่ E-KYC , Accounting Digitalization, Onboarding นอกจากนี้ หากนำเทคโนโลยีด้าน Video Conference และ IDP (Intelligent Document Processing) ที่ประกอบด้วย Image Optimization, OCR Extraction และ Post Processing มาใช้งานร่วมกันกับ RPA, ERP, CRM ก็จะทำให้การลดความผิดพลาด, ต้นทุน, เวลา และแรงงาน ทำได้สมบูรณ์แบบมากขึ้น

 

 

3. การจัดพอร์ต Asset Allocation เพื่อตอบรับยุค New Normal

โดยการจัดพอร์ตของ odini BLACK มีการกระจายความเสี่ยงอยู่ 3 วิธีด้วยกัน คือ 

  1. การกระจายความเสี่ยงในหลายๆ ประเภทสินทรัพย์ 
  2. การกระจายการลงทุนในหลายๆประเทศ 
  3. การกระจายในหลากหลายธีม ที่มีการเติบโตจากวิถี New Normal เช่น ธีมดิจิตอลเฮลธ์แคร์, ธีมเทคโนโลยี, ธีมปัญญาประดิษฐ์ และธีมพลังงานสะอาด เป็นต้น

สำหรับพอร์ต odini BLACK (Ultimate Allocation) ปัจจุบันมีสัดส่วนการลงทุน ดังนี้

  • 25% ของพอร์ต ลงทุนในกองทุนตลาดเงิน (Money Market) ซึ่งเป็นกองทุนความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนไม่สูงนัก สำหรับพักเงินลงทุน เพื่อรอจังหวะลงทุนในกองทุนที่น่าสนใจและทำกำไรได้มากกว่า
  • 5% ลงทุนในกองทุนทองคำ เพื่อกระจายความเสี่ยง และป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
  • 70% ลงทุนในกองทุนแบบธีมเมติก ทั้ง ธีมเทคโนโลยี, ธีมอี-คอมเมิร์ซ, ธีมกัญชา ธีมพลังงานสะอาด ธีมจีน และธีมเวียดนาม

 

ซึ่งความพิเศษของพอร์ต odini BLACK มีจุดเด่นที่สำคัญ คือ

  1. มี Asset Class เด่นๆ จากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ให้ลงทุนได้ในแอปเดียว
  2. การปรับพอร์ตในระหว่างเดือนให้เหมาะสมกับสภาพตลาด โดยไม่ต้องรอการปรับพอร์ตเพียงเดือนละครั้ง
  3. มีการหน่วงจังหวะการลงทุน ให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด
  4. มีทีมผู้เชี่ยวชาญทำงานร่วมกับระบบ Robo-advisor ช่วยในการวิเคราะห์และปรับพอร์ตการลงทุน เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนการลงทุนอย่างมั่นคงในระยะยาว

 

อย่าพลาดโอกาสในการสร้างการเติบโตให้เงินทุนของคุณ คลิก Download odini app ได้ที่นี่เลย https://odini.onelink.me/ymkV/e632ce31

Follow us on

Website: www.odiniapp.com

Facebook: odiniapp

Line ID: @odiniapp

หมายเหตุ: การลงทุนในกองทุนรวมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

Tags: #odini #odiniBLACK #GlobalAssetAllocation #แอปลงทุนกองทุนรวมอัตโนมัติ #ลงทุนง่ายได้ทุกคน

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.