รู้ไว้ ไม่ตกเทรนด์ กับ 5 ประเด็นการลงทุนที่น่าจับตามองในปี 2023

เปิดต้นปีมาก็เต็มไปด้วยเรื่องวุ่นวาย ข่าวสารก็มีให้ตามมากมายเต็มไปหมด ไม่รู้จะจับต้นชนปลายตรงไหนดี

จะดีกว่าไหมถ้าเข้าใจภาพใหญ่ก่อน กับ 5 ประเด็นการลงทุนที่น่าจับตามองในปี 2023 ที่ odini เรากลั่นมาให้แล้ว

1.ตราสารหนี้ เธอมันเริ่ด ตัวปัง ตัวแม่

เมื่อเงินเฟ้อควบคุมไม่อยู่ ทำให้ Fed ต้องขึ้นดอกเบี้ยรัวๆ จนทำให้อัตราดอกเบี้ยตอนนี้มาอยู่ที่ระดับ 4.75% – 5% และยังไม่แน่ว่าจะขึ้นต่อหรือจะหยุดขึ้น

เราเห็นสินทรัพย์หลายอย่างปรับตัวลงในปีที่ผ่านมา รวมถึงตราสารหนี้ แต่ที่แน่ๆ ในปี 2023 นี้สินทรัพย์ที่ผู้จัดการกองทุนทั่วโลกต่างให้ความเห็นว่ายอดเยี่ยม คือตราสารหนี้ เพราะว่าให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าเทียบกับความเสี่ยง 

2.การล้มของธนาคาร Silicon Valley Bank และการเข้าซื้อกิจการ Credit Suisse ของ UBS

 

การขึ้นดอกเบี้ยถึงแม้จะทำให้ตราสารหนี้นั้นน่าสนใจ แต่ไม่ใช่กับคนที่ซื้อตราสารหนี้ตอนดอกเบี้ยต่ำๆ อย่างเช่นในปี 2021 แน่ๆ และ Silicon Valley Bank คือหนึ่งในนั้น

เพราะตราสารหนี้นั้นราคาจะปรับขึ้นลง ส่วนหนึ่งมีผลมาจากอัตราดอกเบี้ยในตลาด ถ้าดอกเบี้ยในตลาดปรับขึ้น ราคาตราสารหนี้รุ่นเก่าที่ให้ดอกเบี้ยต่ำจะมีราคาปรับลดลง

ทำความเข้าใจมากขึ้นกับเรื่องตราสารหนี้ได้ง่าย ๆ ที่ FinVest 

EP 1 | ตราสารหนี้คืออะไร ทำไมจะมาแรง?

EP2 | 8 รูปแบบ การแบ่งตราสารหนี้ที่ควรรู้

EP 3 | รวมคำศัพท์ตราสารหนี้ต้องรู้ & ประเภทตราสารหนี้ที่เจอบ่อย

EP 4 | ผลตอบแทนและความเสี่ยงของตราสารหนี้

EP5 ประเภทของกองทุนรวมตราสารหนี้

Silicon Valley Bank (SVB) จึงต้องรับรู้การขาดทุนทางบัญชีไปเรื่อยๆ และด้วยความที่ลูกค้าส่วนใหญ่ซึ่งเป็น Start Up ได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยเช่นกัน จึงแห่ถอนเงินฝากออกจนธนาคารต้องเผชิญกับปัญหาสภาพคล่อง ทำให้สุดท้ายธนาคารดังกล่าวจึงถูกปิดในที่สุด

ในส่วนของ Credit Suisse ก็เจอปัญหามาตั้งแต่ปี 2021 ที่ Archegos Capital ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ของธนาคารต้องเผชิญกับปัญหา Margin Call และในเมื่อลูกหนี้ไม่มีปัญญาจ่าย ทำให้เจ้าหนี้อย่าง Credit Suisse ประสบกับการขาดทุนหนักตามไปด้วย 

และความกังวลว่าธนาคารจะมีปัญหา ทำให้เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมานี้เองลูกค้ารายหลายได้ตัดสินใจ ถอนเงินไปรวมราวๆ 123 พันล้านฟรังก์สวิส เรื่องราวเหมือนจะผ่านไปด้วยดี แต่ว่าความกังวลได้ก่อตัวขึ้นอีกครั้งอย่างรวดเร็วและรุนแรงหลังจากการล้มของธนาคาร SVB ทำให้หลายคนคาดว่า Credit Suisse เองจะเป็นหนึ่งในรายต่อไป และเรื่องราวยิ่งน่ากังวลมากขึ้นไปอีกเมื่อ Saudi National Bank ผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ปฏิเสธการเพิ่มทุนของ Credit Suisse

ทว่า ในท้ายที่สุด ก็เป็น UBS ธนาคารสัญญาติเดียวกันที่เข้ามาทำการ Take Over กิจการของ Credit Suisse ทั้งหมดไป ปิดฉากตำนานกว่า 167 ปี

3.AI มาแบบเร็วแรงทะลุนรก

หลังจาก ChatGPT เปิดตัวให้ได้ทดลองใช้กัน ก็เกิดกระแสของ Generative-AI บูมขึ้นมาทั่วบ้านทั่วเมือง ล่าสุด OpenAI ได้เปิดตัว ChatGPT-4 ที่พัฒนาจากเดิมไปไกลมาก ทั้งใส่รูปภาพได้ เล่น Sudoku ได้ และอื่นๆ อีกมาก

การมาถึงของยุค AI นี้อาจจะทำให้เกิดอาชีพใหม่ๆ ขึ้นมา อาทิเช่น Prompt Engineer หรือนักป้อนคำสั่งเพื่อคุยกับ AI แต่ในทางตรงกันข้าม ก็อาจจะมีอาชีพเดิมๆ ที่เสี่ยงตกงาน เช่นนักเขียน Content หรืออาชีพอะไรก็ตามที่ ChatGPT ทำงานได้ดีกว่า ซึ่งประเด็นนี้  ยังตอบได้ยากว่าการมาของ AI จะเป็นโอกาสหรือความเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจ แต่ที่รู้ชัดเจนแน่ๆ คือบริษัทที่ทำ Generative-AI ออกมา คือผู้ชนะที่แท้จริงในรอบนี้

4.หุ้น Value ยังแข็งแกร่ง

ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา หุ้น Value ดูจืดไปพอสมควร เนื่องจากถูกกลบด้วยความร้อนแรงของหุ้นเติบโต แต่ในภาวะที่ดอกเบี้ยสูงแบบนี้ แม้กระทั่งหุ้นเติบโตบางส่วนก็ได้กลับกลายมาเป็นหุ้น Value ดังนั้นหุ้น Value อาจจะกลับมาทวงคืนความยิ่งใหญ่

5.บริษัทเทคโนโลยีลดคนอย่างต่อเนื่อง

ตอนนี้ Playbook หนึ่งที่บริษัทเทคโนโลยีไม่ว่าจะรายเล็กรายใหญ่เลือกใช้ คือการลดพนักงานลง ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการควบคุมต้นทุนไม่ให้สูงจนเกินไป และทำให้เหลือกระแสเงินสดไว้ดำเนินการต่อ

สาเหตุที่บริษัทเทคฯ เลือกทำแบบนี้เนื่องจากต้นทุนทางการเงินในระบบที่สูงขึ้น จากการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed นั่นเอง

มากไปกว่านั้น บางบริษัทยังจ่ายเงินเดือนพนักงานด้วยการใช้ Stock Option แปลว่าการที่บริษัทลดคนออก นอกจากจะทำให้ได้กระแสเงินสดเพื่อมาดำเนินธุรกิจมากขึ้นแล้ว ยังจะทำให้ Dilution Effect ของบริษัทลดลงอีกด้วย เพราะไม่มีตัวหารเพิ่มในอนาคตนั่นเอง 

อย่างไรก็ดี บริษัทเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะไล่คนออกได้เฉยๆ ยังต้องจ่ายเงินตามกฎหมายชดเชยอยู่ ดังนั้นในระยะสั้น อาจจะเจอการกดดันจากการตั้งสำรองส่วนนี้ แต่ในระยะยาวจะเป็นผลดีมากกว่า และตลาดหุ้นดูเหมือนจะชอบบริษัทที่ลดคนออกด้วย จากการตอบรับเชิงบวก

┏━━━━━━━━━━━━━┓

odini BLACK Ultimate Allocation

✔️นโยบายการลงทุนที่สามารถปรับระดับความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนให้เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา

✔️เพิ่มความยืดหยุ่นด้วยการทยอยเพิ่มหรือลดน้ําหนักการลงทุนให้เหมาะสม

✔️ดำเนินการโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ พร้อมปรับพอร์ตอัตโนมัติ 

✔️ลงทุนเริ่มต้นเพียง 100,000 บาทเท่านั้น

หากสนใจเริ่มลงทุน คลิก odiniapp.co/3NZCMWQ

┗━━━━━━━━━━━━━┛

#odini

#แอปลงทุนกองทุนรวมอัตโนมัติ

#ลงทุนง่ายได้ทุกคน

อ้างอิง

https://edition.cnn.com/2023/03/15/investing/credit-suisse-shares-saudi-national-bank/index.htm

*ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต

**การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน