odini BLACK ชวนลงทุนใน Tencent ยักษ์ใหญ่เทคฯ ที่ครองมูลค่าตลาดอันดับ 1 ของจีน เกือบ 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ลงทุนผ่านพอร์ต odini BLACK ได้ที่ odini แอป odiniapp.co/odiniBLACK_Tencent และอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://odiniapp.co/odiniBLACK_Tencentweb
Tencent ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเทคฯ จีน ที่ตอนนี้มูลค่าบริษัทก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในแดนมังกร ด้วยการพลิกสถานการณ์ที่เกิดจากความกดดันของรัฐบาลจีน ว่าด้วยเรื่องกฎหมายคุ้มเข้มต่าง ๆ โดยเฉพาะบริษัทเทคฯ
แม้จะโดนผลกระทบจากการจัดระเบียบสังคมของจีน Tencent ยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และราคาหุ้น Tencent (TCEHY) กลับมาผงาดขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายปี 2021 ที่เพิ่งประกาศงบออกมาเมื่อวานนี้ดีกว่าที่คาด
ความน่าสนใจและโอกาสการลงทุน
1. การซื้อสินค้าออนไลน์และการจัดส่งสินค้าเติบโตท่ามกลางการระบาดของ COVID-19 ทำให้เกิดการเติบโตของแพลตฟอร์มการตลาดออนไลน์ทั้งแบบ B2B และแบบ B2C ในจีนอย่างมาก เนื่องจากนโยบาย Social Distancing
2. ไร้สัมผัสด้วยการชำระเงิน E-Payment การพกเงินสดในช่วงนี้อาจเป็นเรื่องที่เสี่ยงต่อการเกิดการติดเชื้อได้ ซึ่งการชำระเงินแบบดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบบัตรหรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์เป็นวิธีการชำระเงินที่หลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ดี ทั้งนี้ยังช่วยให้ผู้คนสามารถซื้อสินค้าออนไลน์ ชำระค่าบริการ และการชำระค่าสาธารณูปโภคได้รวดเร็วและสะดวกมากขึ้น
3. Work From Home การทำงานแบบ Remote Working หลาย ๆ บริษัทให้พนักงานทำงานที่บ้าน โดยเป็นการทำงานรูปแบบใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องมาเจอหน้ากัน แต่สามารถทำงานได้เหมือนเดิม ซึ่งเทคโนโลยีนี้ประกอบด้วย VPNs, Virtual meeting หรือแม้การเก็บข้อมูลผ่าน Cloud
4. วิถีการเรียนสมัยใหม่รูปแบบออนไลน์ หลายสถาบัน โรงเรียน หรือแม้กระทั่งมหาวิทยาลัยเริ่มนำรูปแบบการสอนออนไลน์มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้การศึกษาไม่หยุดชะงัก เนื่องจากนักเรียน นักศึกษาไม่สามารถเดินทางมาเรียนหนังสือได้ตามปกติ ซึ่งเทคโนโลยีนี้คล้ายกับการทำงานแบบ Remote Working
5. กำเนิด Digital Healthcare อยู่บ้านก็รักษาได้ ความกลัวที่ทำให้ผู้คนไม่กล้าออกจากบ้าน ส่งผลให้เกิด TeleHealth วิถีพบแพทย์แบบใหม่ ที่ช่วยควบคุมการแพร่กระจายของ COVID-19 โดยยังคงสามารถพบแพทย์ได้ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งเป็นช่องทางที่ทำให้ผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์สามารถพบกันได้ผ่านช่องทางออนไลน์
6. Streaming Video เข้าสู่ยุคของการดู VR การใช้ชีวิตอยู่บ้านไม่สามารถพบปะกันได้เหมือนเดิม ทำให้ผู้คนมีเวลาอยู่กับหน้าจอเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การเสพความบันเทิงเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากผู้คนต้องการความผ่อนคลาย
จาก 6 ปัจจัยข้างต้นทำให้เห็นถึงความน่าสนใจและโอกาสการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน odini BLACK ชวนเพื่อน ๆ ไปดูกันก่อนว่า Tencent บริษัทเทคฯ ทำอะไรบ้าง แล้วได้รายได้จากทางไหนบ้าง ? มาเปิดโอกาสการลงทุนไปพร้อมกัน
ปัจจุบัน Tencent ถือได้ว่าเป็นบริษัทที่ให้บริการทางด้านการสื่อสารออนไลน์เป็นหลักเลยทีเดียว ซึ่งธุรกิจในเครือก็มีทั้ง
1.Social Networks เช่น QQ, WeChat, Qzone และ Moments เป็นต้น
โดยรายได้จากธุรกิจ Social Networks เติบโต 7% (YoY) อยู่ที่ 3.03 หมื่นล้านหยวน โดยมี Monthly Active Users ของแอปพลิเคชัน WeChat เติบโต 4.1% (YoY) อยู่ที่ 1.26 พันล้านราย
2.Entertainment เช่น ROV, PUBG, JOOX, QQ Music, Tencent Literature, Tencent Comics และ QQ Video เป็นต้น
โดยรายได้ Entertainment ก็มาจากยอดผู้สมัครสมาชิกบริการต่าง ๆ ของบริษัทที่เก็บค่าสมาชิก เติบโต 10.3% (YoY) อยู่ที่ 235.4 ล้านราย ในไตรมาส 3
3.Payment เช่น Tenpay, Wechat Pay และ QQ Wallet
โดยรายได้จากธุรกิจ Fintech และการให้บริการทางธุรกิจ เติบโต 30% (YoY) อยู่ที่ 4.33 หมื่นล้านหยวน จากจำนวนการทำธุรกรรมออนไลน์ที่มีมากขึ้น
4.Information เช่น Tencent News, Tencent Sports, KuaiBao และ Optimal Stocks เป็นต้น
5.Website & Platform เช่น QQ com & Tencent News, Sanook! Tencent Video, QQ Maps, YingYongBao, Pitu, Tencent cloud และ Tencent AI Lab
โดยรายได้จากธุรกิจ Online Advertising เติบโต 5% (YoY) อยู่ที่ 2.25 หมื่นล้านหยวน จากการรับโฆษณาธุรกิจในกลุ่ม Consumer Staples และ Internet Services แทนที่โฆษณาธุรกิจการศึกษา และการประกัน ที่ลดลงจากนโยบายที่เข้มงวดของรัฐบาลจีนที่ห้ามธุรกิจเหล่านี้โฆษณาเกินความเป็นจริง
แม้ว่าการเติบโตของรายได้จาก Online Advertising ในปัจจุบันจะเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง ตามปัจจัยด้านเศรษฐกิจ และนโยบายภาครัฐที่เข้มงวดกับการโฆษณาของธุรกิจบางกลุ่ม แต่เรามองว่าอุตสาหกรรมโฆษณาในจีนจะเริ่มดีขึ้นในช่วงปี 2022
จากการประกาศงบล่าสุดนั้นดีกว่าที่คาด แม้ว่าบริษัทเทคฯ ส่วนใหญ่จะโดนผลกระทบจากนโยบายภาครัฐ แต่รายได้ในไตรมาส 3/2021 กลับเติบโต 13% (YoY) อยู่ที่ 1.42 แสนล้านหยวน โดยในไตรมาสนี้บริษัทเริ่มทำตามกฎระเบียบใหม่ของรัฐบาลจีนที่ต้องการลดเวลาเล่นเกมของเยาวชน ด้านรายได้จากธุรกิจเกมในประเทศเติบโต 5% (YoY) อยู่ที่ 3.36 หมื่นล้านหยวน ขณะที่รายได้จากธุรกิจเกมในต่างประเทศเติบโต 20% (YoY) อยู่ที่ 1.13 หมื่นล้านหยวน
จะเห็นได้ว่าบริษัทเทคฯ ที่มีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดในจีน ล้วนมีบริการที่ครอบคลุมหลากหลายกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคฯ เช่น Internet, E-Commerce, FinTech, Mobile Gaming, Social Media และ Video Streamimg ด้วยกันทั้งสิ้น เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้เราประหยัดเวลาและสร้างความสะดวกสบายมากขึ้นอีกด้วย
Source: Bloomberg, Robowealth, Tencent (ข้อมูล ณ วันที่ 11 พ.ย. 2564)