จะลงทุนต่างประเทศกับเขาทั้งที ต้องมีเงินเท่าไร
ช่วงไม่กี่ปีมานี้ กระแสการลงทุนในต่างประเทศกำลังเป็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งจากนักลงทุนหน้าเก่ามือเก๋า หรือหน้าใหม่เริ่มสนใจลงทุนก็ตาม
.
ก็เลยเกิดคำถามและข้อสงสัย ว่าถ้าพวกเราชาวโอดีเนียนอยากจะลงทุนต่างประเทศกับเขาบ้าง เราต้องมีเงินเท่าไร ?
.
การจะลงทุนไกลถึงต่างประเทศจะมีค่าใช้จ่ายอะไรเกิดขึ้นบ้างนั้น เดี๋ยว odini พาไปรีวิวเอง ขึ้นเครื่องบินมาเล้ยยยย
.
.
เริ่มที่ด่านแรก
.
เงินลงทุนขั้นต่ำ
.
โดยทั่วไป เงินทุนขั้นต่ำที่ใช้ลงทุนในต่างประเทศ จะขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละโบรคเกอร์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะมีขั้นต่ำ โดยเริ่มต้นที่ประมาณ 1 แสนบาท
แต่ในปัจจุบัน ด้วยกระแสการลงทุนในหุ้นต่างประเทศที่มาแรงมาก ๆ ทำให้หลาย ๆ โบรคเกอร์เริ่มไม่จำกัดจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำแล้ว
.
แต่อย่าพึ่งดีใจไปนะครับ เพราะในการลงทุนหุ้นต่างประเทศ ยังมีค่าใช้จ่ายยิบย่อยอีกมากมายรออยู่ มีค่าอะไรอีกบ้างไปดูกันครับ
.
.
ค่าธรรมเนียมการโอนเงิน
.
นอกจากเงินลงทุนขั้นต่ำแล้ว ยังมีอีกเรื่องที่ต้องนึกถึงอีกเรื่องนั่นก็คือ “ค่าธรรมเนียมโอนเงิน” นั่นเองครับ ซึ่งในปัจจุบันค่าธรรมเนียมส่วนนี้ทางโบรคเกอร์จะคิดอยู่ที่ราว ๆ 1,000 – 1,500 บาทต่อการโอนหนึ่งครั้ง
.
แต่อย่าลืมครับว่าเวลาเราไปลงทุนต่างประเทศ จะต้องมีทั้งขาโอนไป และขาโอนเงินกลับ นั่นแปลว่าต้องเสียค่าธรรมเนียมถึงสองครั้งนั่นเอง
ดังนั้นถึงแม้หลายโบรคจะบอกว่าไม่จำกัดเงินลงทุนขั้นต่ำก็จริง
แต่จะเห็นว่าสุดท้ายแล้ว ถ้าเงินลงทุนของเราไม่สูงมากพอ
สัดส่วนค่าโอนเงินเมื่อเทียบกับเงินลงทุน จะสูงมากจนไม่คุ้มนั่นเอง
.
ค่าใช้จ่ายในการรักษาบัญชี
.
โบรคเกอร์บางแห่ง อาจจะคิดค่าใช้จ่ายในการรักษาบัญชี คล้าย ๆ กับค่ารักษาบัญชีธนาคารเลยครับ โดยอาจจะคิดเป็นรายเดือนหรือรายปีก็ได้ ซึ่งราคานั้นตามแต่โบรคเกอร์แต่ละแห่งจะเสนอเลย
.
.
ค่าเอกสาร W-8BEN
.
ในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา หากเราได้กำไรจากเงินปันผล จะต้องเสียภาษีด้วย และในเมื่อเราไปลงทุนในบ้านเขา เราก็ต้องเสียภาษีให้สรรพากรประเทศเขาด้วยนะ
.
ซึ่งเอกสาร W-8BEN เป็นเอกสารที่เอาไว้ยืนยันว่าเราไม่ใช่บุคคลที่มีสัญชาติอเมริกา แต่มีรายได้เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา ซึ่งถ้าเรายื่นเอกสารเรียบร้อย ทางนู้นเขาก็จะใจดีลดภาษีที่ได้จากเงินปันผล 30% เหลือเพียง 15% เท่านั้น
.
แต่ว่าการยื่น W-8BEN ผ่านโบรคเกอร์ในไทย จะต้องมีค่าธรรมเนียมด้วย ซึ่งค่าธรรมเนียมเอกสารส่วนนี้ก็ขึ้นอยู่กับโบรคเกอร์แต่ละแห่ง แต่ในปัจจุบัน โบรคเกอร์ส่วนใหญ่จะคิดค่าธรรมเนียมตรงนี้อยู่ที่ 2,000 บาทต่อ 3 ปีปฏิทินครับ
.
.
แล้วถ้าไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง แต่อยากลงทุนต่างประเทศบ้าง ทำยังไงดี ?
.
อ่านมาถึงตรงนี้ เพื่อน ๆ อาจจะเริ่มรู้สึกว่า การลงทุนในหุ้นต่างประเทศทำไมมันดูยากเย็นแบบนี้เนี่ยยยยย คว่ำโต๊ะ
.
อย่าพึ่งหมดหวังนะครับ ถ้าทำเองทั้งหมดมันไม่ง่ายก็จริง แต่ถ้าทำผ่านแอปที่เขาทำทุกอย่างให้แล้ว ก็ต้องขอ 3 คำตรง ๆ เลยครับว่า “มัน” “ง่าย” “มาก”
.
มันง่ายมากเพราะตอนนี้ odiniapp สามารถจับมือเพื่อน ๆ ลงทุนต่างประเทศได้ผ่านกองทุนรวม โดยใช้เงินขั้นต่ำแค่ 1,000 บาทเท่านั้น
.
ใช่ ครับ อ่านไม่ผิด แค่ 1,000 บาทเท่านั้นนนนนนนนนน
.
.
ทำไมถึงทำแบบนี้ได้เหรอครับ
.
เพราะ odini app เป็นแอปลงทุนกองทุนรวม“อัตโนมัติ” ที่หมายความว่า “อัตโนมัติ” จริง ๆ ทุกขั้นตอนทุกค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นทั้งหมดในการลงทุนต่างประเทศ odini จัดการให้ครบหมดเรียบร้อยแล้ว ชาวโอดีเนียนไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงแค่ดาวน์โหลดแอป สมัคร ทำตามขั้นตอนและยืนยันตัวตน (ตามกฎ ก.ล.ต.) ให้เรียบร้อย หลังจากนั้น ก็เริ่มลงทุน เริ่มต้นที่ 1,000 บาท เท่านี้ก็ได้ลงทุนในตลาดต่างประเทศผ่านกองทุนรวมแล้วเรียบร้อยครับ เป็นไงครับ ง่ายสุด ๆ
.
ส่วนจะลงทุนในกองทุนไหน ประเทศอะไร สหรัฐ ฯ จีน หรือประเทศอื่น ๆ odini จะปรับเปลี่ยนตามสภาวะตลาด ณ ขณะนั้นเพื่อให้เหมาะกับลูกค้าที่สุด ซึ่งตรงนี้สามารถดูได้ในแอปเลยครับ
.
เพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบคอนเทนต์แบบนี้หรืออยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เราไปรวมกันที่ LINE @odiniapp เลยครับ คอนเทนต์ใหม่ ๆ พร้อมเสิร์ฟ เพียบบบบบบบ
.
.