ตลาดปั่นป่วนแต่พอร์ตไม่ป่นปี้ odini ชวนทำความรู้จักกับทฤษฏี Asset Allocation

ตลาดปั่นป่วนแต่พอร์ตไม่ป่นปี้ odini ชวนทำความรู้จักกับทฤษฏี Asset Allocation

สวัสดีครับเพื่อน ๆ นักลงทุนชาวโอดีเนียนทุกท่าน เป็นอย่างไรกันบ้าง สบายดีกันไหมครับ? ในช่วงที่ตลาดปั่นป่วนแบบนี้ พวกเรา odini จะขอชวนทำความรู้จักกับทฤษฏีทางการเงินทฤษฏีหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นทฤษฏีที่สำคัญสำหรับการลงทุนในช่วงเวลาแบบนี้กันครับ ซึ่งทฤษฏีที่ว่านั่นก็คือการทำ Asset Allocation นั่นเอง

.

#แล้วAssetAllocationคืออะไร?

ถ้าให้พูดถึง Asset Allocation แบบรวบรัดตัดตอนมันคือการที่เราเลือกลงทุนโดยกระจายความเสี่ยงไว้ในหลาย ๆ สินทรัพย์นั่นเองครับ โดยทฤษฏีนี้มาจากคุณ Harry Markowitz เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ในปี 1990 โดยคุณ Harry Markowitz เองได้มีคำอธิบายง่าย ๆ สำหรับทฤษฏีนี้ไว้ด้วยว่า “อย่าใส่ไข่ไว้ในตระกร้าใบเดียว” ซึ่งเป็นการเปรียบเปรยว่า ถ้าเราใส่ไข่ไว้ในตระกร้าใบเดียว แล้วเผลอทำตระกร้าใบนั้นเกิดหลุดมือขึ้นมา ไข่ในตระกร้านั้นคงแตกเหลวไม่มีชิ้นดีแน่นอน แต่มาถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยแล้วใช่ไหมครับว่า การกระจายพอร์ตลงทุนมันมีดีอย่างไร?

.

#แล้วการกระจายการลงทุนมีประโยชน์อย่างไร?

เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น ผมขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพมากขึ้นด้วยตัวละครสมมตินามว่า แมนยู และ ลิเวอร์พูล แล้วกันครับเพื่อความง่าย

ทั้งคู่นั้นมีเงินเริ่มต้นลงทุน 10,000 บาทเท่ากัน แต่สิ่งที่ทั้งสองแตกต่างกันคือมุมมองในการลงทุน

.

นายแมนยูมองว่าทำไมต้องกระจายความเสี่ยงด้วย จะลงทุนทั้งทีต้องเอาให้สุด อย่าให้มีอะไรมาหยุดได้ จึงตัดสินใจลงทุนในกองทุนหุ้นไทย 100% ของพอร์ตดังนั้นพอร์ตจะเป็นดังนี้

พอร์ตของนายแมนยู

กองทุนหุ้นสหรัฐฯ 10,000 บาท (สัดส่วน 100%)

พอร์ตรวม คือ 10,000 บาท (สัดส่วน 100%)

.

ขณะเดียวกัน นายลิเวอร์พูล เองมีมุมมองว่าเราไม่ควรลงทุนในสินทรัพย์อย่างใดเพียงอย่างเดียว แต่ควรกระจายความเสี่ยงเพื่อให้พอร์ตเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

โดยลักษณะการจัดพอร์ตของนายลิเวอร์พูลเป็นดังนี้

.

กองทุนหุ้นสหรัฐฯ  2,500 บาท (สัดส่วน 25%)

กองทุนหุ้นจีน 2,500 บาท (สัดส่วน 25%)

กองทุนทองคำ 2,500 บาท (สัดส่วน 25%)

กองทุนตราสารหนี้ 2,500 บาท (สัดส่วน 25%)

.

พอร์ตรวมคือ 10,000 บาท (สัดส่วน 100%)

.

จะเห็นว่าลักษณะการจัดพอร์ตของนายแมนยูนั้น ถ้าหุ้นสหรัฐฯเติบโตได้ดี นายแมนยูจะได้ผลตอบแทนที่สูงมาก แต่สัจธรรมข้อหนึ่งของการลงทุนคือ ทุกสินทรัพย์นั้นมีวัฏจักรของมัน และไม่สามารถยืนค้างฟ้าได้ตลอดไป ในทางกลับกัน ถ้าตลาดไม่เป็นใจให้หุ้นสหรัฐฯ จะเกิดอะไรขึ้นน้า?

.

#ถ้าตลาดไม่เป็นใจ #จะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่ใส่ไข่ไว้ในตระกร้าใบเดียว?

.

สมมติอีกเหมือนกัน สมมติว่าวันดีคืนดีหุ้นสหรัฐฯ มีการปรับฐานที่รุนแรง ส่งผลให้กองทุนหุ้นสหรัฐฯปรับฐานลงมา 50% จากจุดสูงสุด แต่ทองคำกลับปรับตัวขึ้น ทำให้กองทุนทองคำปรับตัวขึ้น 20% ส่วนสินทรัพย์อื่น ๆ ไม่ปรับตัวขึ้นหรือลง ทีนี้ลองมาทายกันเล่น ๆ ว่าพอร์ตของใครเสียหายน้อยกว่ากัน ?

.

มาดูที่พอร์ตของนายแมนยู ผู้ที่ยืนหยัดในหุ้นสหรัฐฯกันก่อน

.

กองทุนหุ้นสหรัฐฯ 5,000 บาท (-50%  เทียบกับพอร์ตรวม)

พอร์ตรวมของนายแมนยู คือ 5,000 บาท (ขาดทุน 50% จากเงินลงทุนตั้งต้น)

.

แต่ถ้าเรามาดูที่พอร์ตของนายลิเวอร์พูล จะเห็นว่าพอร์ตยังชิลอยู่ได้แม้ว่าหุ้นสหรัฐฯ จะลงถึง 50% เพราะได้ผลตอบแทนจากการที่ทองคำปรับตัวขึ้นมาช่วยไว้

.

กองทุนหุ้นสหรัฐฯ  1,250 บาท (25%) (-12.5% เทียบกับพอร์ตรวม)

กองทุนหุ้นจีน 2,500 บาท (ไม่เปลี่ยนแปลง)

กองทุนทองคำ 3,000 บาท (+5% เทียบกับพอร์ตรวม )

กองทุนตราสารหนี้ 2,500 บาท (ไม่เปลี่ยนแปลง)

.

พอร์ตรวมนายลิเวอร์พูล คือ 9,250 บาท (ขาดทุน 7.5% จากเงินลงทุนตั้งต้น)

.

จะเห็นได้ว่า จากเรื่องราวสมมติด้านบน การกระจายความเสี่ยงนั้นช่วยประคองพอร์ตการลงทุนแบบเต็ม ๆ โดยเฉพาะในยามที่ตลาดผันผวนและปั่นป่วนแบบสุด ๆ เอาหล่ะ ก่อนที่บทความจะยาวไปมากกว่านี้ ขออนุญาตสรุปข้อดีของการกระจายความเสี่ยงเลยแล้วกันครับ

.

#สรุปข้อดีของการกระจายความเสี่ยง 

จากเรื่องราวด้านบน จะเห็นว่า การทำ Asset Allocation นั้นช่วยในเรื่องการประคับประคองให้การลงทุนของเรานั้นไปยังจุดหมายที่ต้องการได้อย่างนิ่มนวลยิ่งขึ้น

แต่อีกเรื่องสำคัญที่หลายคนอาจจะลืมนึกถึงก็คือ เวลาที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ และพอร์ตของเราแสดงตัวเลขสีแดงออกมานั้นมันไม่ได้เพียงแค่กินเงินในพอร์ต แต่มันกัดกลืนจิตใจคนลงทุนอย่างเรา ๆ ด้วย ด้วยเหตุนี้เอง การกระจายพอร์ตจะช่วยให้สุขภาพจิตของเราดีขึ้น และยืนระยะในการลงทุนได้นานขึ้นนั่นเอง

.

#แล้วแบบนี้เราควรกระจายสัดส่วนการลงทุนอย่างไรดี?

อยากบอกว่าพวกเรา odini กระจายการลงทุนถึง 9 ประเภทสินทรัพย์ แถมปรับพอร์ตอัตโนมัติให้นักลงทุนทุกท่าน โดยพวกเรามีให้เลือกถึง 5 ระดับความเสี่ยงด้วยกัน แค่นั้นยังไม่พอ ขอบอกว่าเริ่มต้นได้ง่าย ๆ เลย มีแค่ 1,000 บาท ก็สามารลงทุนได้แล้ว  สำหรับใครที่ยังไม่เคย ขอบอกเลยว่าต้องลองแล้วจะติดใจ

 

ถ้าเพื่อน ๆ สนใจอยากลงทุนในแอป odini ก็สามารถไปที่ Line@ https://odiniapp.co/AOoac01-l0428 ได้เลยครับ
มีทั้งคอนเทนต์อัปเดตการลงทุนที่ห้ามพลาด รวมถึงสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย เจอกันใน Facebook Page https://odiniapp.co/3PrU40f นะครับ

.
.

#odini #แอปลงทุนกองทุนรวมอัตโนมัติ #ลงทุนง่ายได้ทุกคน

 

*ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต*

*การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้าเงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน*

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.