
ทรัมป์ถล่มตลาดทุนด้วย Recriprocal Tax ต้องกังวลไหม – โดย odini UA
พูดแป๊บเดียว เสียวไปทั่วโลก
หลังจากที่วันที่ 2 เมษายน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศมาตรการภาษีการนำเข้าสินค้าสู่สหรัฐอเมริกาเพื่อตอบโต้
ถ้าให้สรุปง่าย ๆ
- กำหนดภาษีนำเข้าขั้นต่ำ 10%
- ภาษีเพิ่มเติมขึ้นกับแต่ละประเภทสินค้า
ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 เมษายน
- ในขณะที่อัตราภาษีที่สูงขึ้นจะมีผลบังคับใช้ต่อในวันที่ 9 เมษายน แยกตามรายประเทศ
โดยมีการยกเว้นการเก็บกับสินค้าบางประการ
อัตราภาษีตอบโต้ของสหรัฐอเมริกาต่อประเทศต่าง ๆ
นอกเหนือจากอัตราภาษี 10%
คู่ค้าหลักของสหรัฐอเมริกาหลายประเทศยังต้องเผชิญอัตราภาษีที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ตารางด้านล่างแสดงรายละเอียดอัตราภาษีที่คำนวณโดยทำเนียบขาวและอัตราภาษีตอบโต้ที่ประกาศสำหรับ 15 ประเทศหลัก:
อ้างอิงจากภาพ
จุดที่น่าสังเกตคือนอกเหนือจากจีนและยุโรปที่โดนเก็บภาษีในอัตราที่สูงแล้ว ประเทศไทยเราและเพื่อนบ้านก็โดนกับเขาด้วย
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวได้ระบุว่าสินค้าบางประการ ได้รับการยกเว้นจากภาษีเหล่านี้
นั่นก็คือ
- ทองแดง
- เภสัชภัณฑ์
- เซมิคอนดักเตอร์
- รถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ที่อยู่ภายใต้ภาษีอยู่
- อะลูมิเนียม
- ไม้
- พลังงาน
- แร่ธาตุบางชนิดที่ไม่มีในสหรัฐอเมริกา
หรือการคำนวณการเก็บภาษีตอบโต้ของทีมงานของทรัมป์ มีที่มาจาก AI
มีหลายคนสังเกตว่าตัวเลขภาษีของทรัมป์นั้นแตกต่างจากอัตราภาษีของหลายประเทศที่รายงานโดยองค์การการค้าโลกค่อนข้างมาก
แล้วอะไรคือสูตรที่ใช้คำนวณ
มีนักวิเคราะห์หลายรายออกมารายงานว่า อัตราภาษีของประเทศอื่น ๆ ไม่ได้ถูกนำมาใช้จริง
แต่สูตรการขาดดุลการค้าของสหรัฐอเมริกากับประเทศนั้น ๆ คิดมาจากการหารด้วยมูลค่าการนำเข้าของสหรัฐอเมริกา เพื่อคำนวณ “อัตราภาษี” ที่เก็บต่อประเทศอื่น ๆ
โดยสูตรคำนวณนั้นถ้าให้สรุปง่าย ๆ เช่น
ประเทศ A
มีการส่งออกมาที่สหรัฐ $6
มีการนำเข้ามาที่สหรัฐ $4
สหรัฐมองว่ากำลังโดนเอาเปรียบอยู่ $6 – $4 = $2
ถ้าจะทำให้ทุกอย่างเท่าเทียม สหรัฐฯ จะทำการเก็บภาษีโดย
$2/$6 = 33% เป็นจุดตั้งต้น
ซึ่งสหรัฐฯ ใจดี บอกจะเก็บครึ่งเดียว เลยเหลือ 17% ที่ประเทศ A โดนเก็บ
(ครึ่งหนึ่งมาจากค่าคงที่ซึ่งเป็นตัวเลขที่ทางการใช้ อาจมีการปรับเปลี่ยนในอนาคต)
นี่คือ Reciprocal Tariff
เรื่องนี้ได้รับการยืนยันโดยรองเลขาธิการฝ่ายสื่อมวลชนของทำเนียบขาว คุช เดไซ
นอกจากนี้ ดูเหมือนว่า AI อาจถูกใช้ในการคิดค้นการนำไปใช้และสูตรนี้ เนื่องจากผู้ใช้ X อีกรายค้นพบว่า ChatGPT, Gemini, Claude และ Grok ต่างก็ให้คำตอบและวิธีการเดียวกันกับที่ทำเนียบขาวใช้ เมื่อถูกถามว่าจะกำหนดภาษีได้อย่างง่ายดายอย่างไร
แต่ไม่ว่าจะมาจาก AI หรือไม่นั้นไม่สำคัญ เพราะผลกระทบนั้นคือมูลค่าตลาดที่หายไป 5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และปัญหาเศรษฐกิจที่ตามมาในอนาคต
กระทบกับเศรษฐกิจขนาดไหน
ในอดีตทรัมป์มักจะเดินเกมกดดันเพื่อต้องการเจรจา
แต่ปัจจุบัน? ต้องติดตามกันต่อไป
ถ้าหลาย ๆ ประเทศเลือกที่จะขึ้นภาษีเพื่อทำการตอบโต้นโยบายของทรัมป์ แทนที่จะยอม
อาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเกิดภาวะ Recession ได้
แต่กลับกัน ถ้าหลาย ๆ ประเทศเลือกที่จะเจรจาตามที่ทรัมป์ต้องการ สถานการณ์ตลาดอาจไม่แย่อย่างที่คิด
และทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส!
#odini
#แอปลงทุนกองทุนรวมอัตโนมัติ
#ลงทุนง่ายได้ทุกคน
อ้างอิง https://www.visualcapitalist.com/visualized-trumps-reciprocal-tariffs-on-major-nations/,
https://www.tiktok.com/@bloombergopinion/video/7489130603430956319, Mona Paulsen
*ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
**การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน