26
Jul
odiniBLACK Schroders Growth & Income พาท่องคัมภีร์ลงทุนฝ่า Stagflation
Comments
#พาท่องคัมภีร์ลงทุนฝ่าStagflation
เศรษฐกิจที่แย่ลงขณะเงินเฟ้อที่สูงทำให้นับแต่ต้นปี 2022 ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์อย่างหุ้นหรือตราสารหนี้ต่างก็ให้ผลตอบแทนติดลบ ซึ่งพบเหตุการณ์เช่นนี้น้อยมากในอดีต ในทางตรงกันข้าม นี่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งโอกาสการลงทุนที่เยี่ยมยอดเช่นเดียวกัน แต่ต้องอาศัยการกลั่นกรองเป็นอย่างดี Schroders ขอพาท่องคัมภีร์ฝ่า Stagflation (ภาวะที่เศรษฐกิจแย่ลงขณะที่เงินเฟ้อสูงขึ้น)
.
โอกาสการเกิดStagflationยังมีมากขึ้นไหม #ผลที่ตามมาคืออะไร?
ถ้าเกิดStagflationแล้วยังลงทุนได้ไหม #ต้องลงทุนอะไร?
สินทรัพย์กลุ่มไหนมีโอกาสทำผลตอบแทนได้โดดเด่นใน 6-12 เดือนข้างหน้า?
#สินทรัพย์ต่างๆราคาร่วงแทบทั้งหมด #หุ้นValueทำผลตอบแทนดีที่สุด
นับจากการเกิดขึ้นของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ได้ทำให้ราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ต่างปรับตัวขึ้นสูงมากกดดันเงินเฟ้อ ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยจึงเริ่มมีมากขึ้น โดยเฉพาะในยุโรปรวมถึงสหรัฐฯ ยิ่งไปกว่านั้นความเสี่ยงของ Stagflation ที่ยืดยาวขึ้นก็มีมากยิ่งขึ้น สิ่งที่หนีไม่พ้นแน่นอนคือความกังวลถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่แย่ลง
.
ดัชนีหุ้นเทคโนโลยี Nasdaq ได้อยู่ในภาวะตลาดหมี (ปรับตัวลง 20% จากจุดสูงสุด) ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หรือแม้กระทั่งหุ้นสหรัฐฯ S&P500 และหุ้นยุโรป STOXX600 ต่างก็ประสบภาวะดังกล่าวเช่นเดียวกัน (ในสกุลดอลลาร์สหรัฐ ) ช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ในส่วนของสไตล์ หุ้นเติบโต หรือ Growth (หุ้นที่มีความคาดหวังว่าผลประกอบการเติบโตสูงกว่าตลาด) ทำผลตอบแทนติดลบจากแรงกดดันของการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่หุ้นคุณค่า หรือ Value (หุ้นที่ซื้อขายด้วยราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง) ซึ่งรวมถึงกลุ่มที่เป็นพลังงาน วัสดุ ธนาคาร ประกัน ที่ได้รับประโยชน์จากการปรับขึ้นดอกเบี้ย เป็นกลุ่มที่ทำผลตอบแทนได้ดีที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี
.
#โอกาสในกลุ่มที่มีPricing Power #หุ้นGrowthบางตัว
การปรับฐานข้างต้นได้ลุกลามถึงหุ้นกลุ่ม Technology และ Consumer Cyclical ที่มีรายได้และกำไรเติบโตเป็นอย่างมากจากช่วงล็อกดาวน์ ได้ทำให้ผู้บริโภคชะลอการจับจ่ายกับกลุ่มเหล่านี้ โดยมองว่าแพงหรือไม่จำเป็น เพราะค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากการปรับขึ้นของราคาค่าไฟ พลังงาน และอาหาร
.
ฝั่งผู้ผลิตหรือธุรกิจเองก็อาจมีอัตราการทำกำไรที่ลดลงจากต้นทุนที่สูงขึ้นหรือแม้กระทั่งรายได้ที่ลดลง ในสภาวะแวดล้อมเช่นนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องให้ความสำคัญกับหุ้นที่มี “Pricing Power” ซึ่งหมายถึงอำนาจในการกำหนดราคาสินค้าและบริการโดยสามารถที่จะส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปยังผู้บริโภค ซึ่งอาจอยู่ในหุ้น Growth บางตัว
.
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโดยเฉพาะกลุ่มซอฟต์แวร์เป็นหนึ่งในตัวอย่าง “ด้วยเศรษฐกิจแม้จะแย่แต่ผู้คนส่วนน้อยมากจริง ๆ ที่จะหยุดใช้ Microsoft Office” เป็นสิ่งที่ทาง Schrocers ให้ความเห็น
.
#โอกาสในกลุ่มที่มีQuality
หุ้น “Quality” หรือคุณภาพ ที่หมายถึงกลุ่มที่มีกำไรสูงและต่อเนื่อง รวมถึงหนี้สินที่ต่ำ ก็เป็นกลุ่มที่ราคาปรับลง แม้จะมีบางส่วนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นกลุ่มเทคโนโลยี ยังมีบางแห่งที่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้เป็นอย่างดีและมีสถานะงบดุลที่แข็งแกร่งอย่าง Microsoft Google Adobe ส่วนที่เหลือประกอบไปด้วยบริษัทขนาดใหญ่ที่มีลักษณะ Defensive Compounding (ผลประกอบการแปรผันต่อภาวะเศรษฐกิจต่ำ) เช่น Johnson & Johnson ด้วยการปรับฐานลงมาโดยเฉลี่ย 20% ผู้เชี่ยวชาญจากทาง Schroders เชื่อว่ามีโอกาสสูงที่จะฟื้นตัวในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้า
.
#โอกาสในสิ่งที่แน่นอน #เมกะเทรนด์
อาจจะเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ที่ตลาดให้ความสำคัญกับภาพระยะสั้น แต่แท้จริงแล้วนักลงทุนกำลังลืมไปว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นจริงแท้แน่นอน ที่สิ่งเหล่านั้นจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิต Climate Change เป็นหนึ่งในตัวอย่าง ที่กลายเป็นว่าราคาพลังงานที่สูงขึ้นกลับกลายเป็นตัวเร่งการใช้พลังงานสะอาดนอกเหนือไปจากสภาวะภูมิอากาศโลกที่แปรปรวน
“Digitalisation” หรือ การขับเคลื่อนสู่สังคมแบบดิจิทัล ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ชัดเจน แต่ระดับราคากลับอ่อนแอลงในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
โดย Schroders เชื่อว่าผลตอบแทนที่แท้จริงระยะยาวจะมาจากกลุ่มเหล่านี้ ซึ่งนั่นคือเมกะเทรนด์ หรือการเติบโตเชิงโครงสร้างขนานใหญ่ที่จะมีมูลค่าและโอกาสมหาศาลเพราะได้เปลี่ยนแปลงจากรูปแบบดั้งเดิมไปตลอดกาล
.
#โอกาสในสิ่งที่ไม่แน่นอน #สินค้าโภคภัณฑ์
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับขึ้นมากได้ทำให้ระดับกำไรและกระแสเงินสดของบริษัทเหล่านั้นมีความแข็งแกร่งนำมาซึ่งความสามารถที่จะซื้อหุ้นคืนและผลตอบแทนของผู้ถือสินทรัพย์ จึงสมเหตุสมผลที่จะมีสถานะถือลงทุนในช่วงเวลาไม่แน่นอนเช่นนี้
.
#ให้Schrodersผู้บริหารพอร์ตลงทุนระดับโลกดูแลคุณแบบ“ซุปเปอร์วีไอพี”
นโยบายการลงทุนภายใต้แอปพลิเคชัน odini ผ่านพอร์ต Schroders Growth & Income ลงทุนในทั้งหุ้นกลุ่มคุณค่าและกลุ่มเติบโตที่มีคุณภาพสูง ปกป้องพอร์ตด้วยสินค้าโภคภัณฑ์ ที่บริษัทจัดการลงทุนระดับโลกอย่าง Schroders เป็นที่ปรึกษาในการจัดสรรสินทรัพย์ ด้วยกลยุทธ์กระจายการลงทุนแบบยืดหยุ่นไม่มีข้อจำกัด ด้วยการปรับสัดส่วนการลงทุนให้เข้ากับสถานการณ์และสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง
ถ้าเพื่อน ๆ สนใจอยากลงทุนในแอป odini ก็สามารถไปที่ Line@ https://odiniapp.co/AOoac01-l0428 ได้เลยครับ
มีทั้งคอนเทนต์อัปเดตการลงทุนที่ห้ามพลาด รวมถึงสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย เจอกันใน LINE@ นะครับ
.
.