ความต้องการชิปล้นโลก ชิปเลยขาดตลาด โอกาสที่นักลงทุนห้ามมองข้าม odini BLACK ลงทุนในบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ ชื่อดัง Nvidia, AMD, TSMC

ความต้องการชิปล้นโลก ชิปเลยขาดตลาด โอกาสที่นักลงทุนห้ามมองข้าม odini BLACK ลงทุนในบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ ชื่อดัง Nvidia, AMD, TSMC

ได้ข่าวมาว่าชิปจะขาดตลาดถึงปี 2023 ซึ่งเหตุการณ์นี้ จะส่งผลต่อการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ มากมายขนาดไหน แล้วความสำคัญของตัวชิปเนี้ย เป็นส่วนประกอบของอุตสาหกรรมใดบ้าง odini BLACK ชวนเปิดโอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) หรือ ชิป (Chip) ที่อุปสงค์ความต้องการใช้ชิปนี้ มีมากกว่าอุปทานของตลาด ดาวน์โหลด odini แอป ได้ที่ https://odiniapp.co/odiniBLACKSemiconductor แอปลงทุนอัตโนมัติในกองทุนรวม ด้วย Robo-advisor

 

ทำไมชิปถึงขาดตลาด ?

 

มองไปทางไหนก็เจอแต่คนบอกว่าตอนนี้ชิปขาดตลาดสุด ๆ ของที่ตั้งใจจะซื้อก็แพงขึ้นทู๊กวัน เพราะชิปแพง อย่างไม่นานมานี้  Mitsubishi Motors และ Honda ค่ายรถดังของญี่ปุ่น ก็ลดจำนวนการผลิตรถยนต์ลง Samsung ลดการผลิตมือถือ ส่วน Sony ผลิต PS5 ช้าลง เพราะไม่สามารถตัดหาชิปได้ทัน สาเหตุเหล่านี้เป็นเพราะว่าตลาดมีความต้องการชิปเพิ่มสูงขึ้น แต่กำลังการผลิตกลับไม่เพียงพอต่อความต้องการ

 

1.ชิปขาดตลาด จากวิถีชีวิตของมนุษย์ในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป

คนวัยทำงานก็ Work from home (WFH) ส่วนวัยรุ่นก็เรียนออนไลน์ (Online learning) ทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มียอดขายสูงขึ้น Notebook เพิ่มขึ้น 55% (YoY) Tablet เพิ่มขึ้น 44% (YoY) Game console เพิ่มขึ้น 21% (YoY) อีกทั้งรอบตัวเรามีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น อย่าง Advance Home Appliances เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่ล้ำสมัย อย่างตอนนี้เราก็มีหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติ เครื่องกรองอากาศอัจฉริยะ หม้อทอดไฟฟ้า และเครื่องใช้อื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้บ้านเราเป็น Smart Home รวมถึงเทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้า (Advance Technology in Automotive) ที่มีมากขึ้นด้วย

 

2.ชิปขาดตลาด จากการใช้เทคโนโลยี 5G 

ชิปถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นรากฐานของ 5G คาดว่ามูลค่าตลาดชิปที่ใช้เทคโนโลยี 5G มีแนวโน้มเติบโตขึ้นปีละ 72% ตั้งแต่ปี 2020 – 2026 เนื่องจากผู้คนเปลี่ยนไปใช้โทรศัพท์ 5G เพิ่มมากขึ้น รวมถึงมีการใช้งาน Internet of Thing (IoT) เพิ่มมากขึ้นด้วย

 

3.ชิปขาดตลาด จากการนำชิปไปใช้ใน AI

คาดว่ามูลค่าตลาดชิปที่ใช้ใน AI จะมีแนวโน้มโตขึ้นปีละ 33% ปี 2021 – 2025 แน่นอนว่า  AI เนี่ยก็อยู่รอบ ๆ ตัวเราเหมือนกันทั้ง Siri ของ Apple, AI bot ตอบ Chat และ AI Trading เป็นต้น

 

4.ชิปขาดตลาด จากการเพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์อัตโนมัติ

ชิปเป็นส่วนประกอบสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งมีแนวโน้มที่คนทั่วโลกจะหันมาใช้มากขึ้น จนตอนนี้เราก็เห็นแล้วว่าจำนวนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปได้แซงหน้ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันไปแล้ว โดยคาดการณ์ว่าในปี 2040 จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น 54 ล้านคัน เกือบ 60% ของรถยนต์บนถนน ส่วนรถยนต์ไร้คนขับจะเพิ่มขึ้น 33 ล้านคัน ซึ่งรถยนต์ทั้ง 2 ชนิดนี้ใช้ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนล้วน ๆ และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปี 2021 – 2025 เป็น 32% และ 19% ต่อปี

 

5.ชิปขาดตลาด จากยุคของการขุด Crypto Currency

เนื่องจากการขุดเหรียญดิจิทัลต่าง ๆ ต้องใช้ชิปประมวลผลจำนวนมาก ถ้าความยากในการขุดเพิ่มขึ้น เราก็ยิ่งต้องใช้ GPU ที่ประมวลผลได้รวดเร็วกว่าเดิมด้วย

 

โอกาสการลงทุนเพียงแค่เอื้อม นโยบายรัฐหนุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก

 

เห็นได้จากความต้องการชิปดังกล่าวที่มากขึ้น อุตสาหกรรมนี้จึงมีแนวโน้มเติบโตขึ้น อีกทั้งประเทศมหาอำนาจมีแผนลงทุนและสนับสนุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์มากขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น

  • สหรัฐอเมริกามีแผนอัดฉีดเงิน 50,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อพัฒนาการผลิตชิปในประเทศ
  • ยุโรปตั้งเป้าการเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ให้ได้ 20% ของผู้ผลิตทั่วโลก
  • จีนจัดสรรงบประมาณ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พัฒนาเทคโนโลยีผลิตชิป
  • เกาหลีใต้ลงทุนในอุตสาหกกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ด้วยงบ 37% ประมาณ 3,500 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ

 

odini BLACK พาลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตเซมิคอนดักเตอร์ 6 บริษัทตัวท็อป

 

ไปดูกันว่ามีบริษัทไหนที่ odini BLACK ไปลงในกองทุนที่ลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และบริษัทที่เกี่ยวข้องกันบ้าง

  • Nvidia (NVDA) บริษัทผลิตการ์ดจอ (GPU) หรือหน่วยประมวลผลด้านกราฟฟิกสำหรับคอมพิวเตอร์ สำหรับอุตสาหกรรมเกม และการตัดต่อวีดีโอ
  • AMD (AMD) ผลิตสินค้าเกี่ยวกับเซมิคอนดัคเตอร์ เป็นผู้พัฒนา ซีพียู และเทคโนโลยีต่าง ๆ ออกสู่ตลาดทั่วโลก
  • Apple (AAPL) ผู้ปฏิวัติธุรกิจคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะยุค 70 ให้กลายมาเป็น Iphone ในยุคปัจจุบัน
  • Broadcom (AVGO) ซัพพลายเออร์ระดับโลกในการผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์เซมิคอนดักเตอร์
  • ARM บริษัทที่ขายสิทธิบัตรให้บริษัทอื่น ๆ สามารถผลิต CPU ที่ใช้สถาปัตยกรรม ARM โดย ARM เป็น CPU เบอร์ 1 ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพาที่ใช้กันทั่วโลก
  • TSMC (TSMC34) บริษัทสัญชาติไต้หวันผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลก มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 52% โดย Apple และ Huawei ก็เป็นหนึ่งในลูกค้าของ TSMC

 

Source: Robowealth, Bloomberg, LHFund

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.