ลงทุนแบบถัวเฉลี่ย (DCA) หรือ ก้อนเดียว (Lump Sum) แบบไหนเหมาะกับเรา ?
มีคำถามมากมายเกี่ยวกับรูปแบบการลงทุนที่ว่า เราควรเริ่มต้นลงทุนยังไงก่อนดี ระหว่าง ลงทุนแบบถัวเฉลี่ย (DCA) หรือลงทุนแบบก้อนเดียว (Lump Sum) วันนี้แอดเลยพามารู้จักกันก่อนถึงการลงทุนทั้ง 2 รูปแบบนี้ มีความน่าสนใจ และ แตกต่าง กันอย่างไรบ้าง
การลงทุนแบบถัวเฉลี่ย (DCA) เป็นการลงทุนประจำทุกเดือนอย่างสม่ำเสมอ สิ่งที่เราสนใจ คือ เราสามารถซื้อกองทุนถัวเฉลี่ยได้ในราคาที่แตกต่างกัน เช่น เดือนมกราคมเราลงทุน 5,000 บาท ซื้อหน่วยลงทุนได้ในราคา 12 บาท เดือนถัดไปเราอาจจะซื้อหน่วยลงทุนได้ในราคา 10 บาท ซึ่งเราก็จะได้หน่วยลงทุนในจำนวนที่มากกว่าเดือนก่อน และการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยก็จะลงทุนให้ทุกเดือนต่อไปเรื่อย ๆ ในช่วงเวลาลงทุนที่แน่นอน เป็นการลงทุนสม่ำเสมอและระยะยาว
การลงทุนแบบก้อนเดียว (Lump Sum) เป็นการลงทุนครั้งแรกด้วยเงินก้อนเดียวในจังหวะเวลาที่ประเมินแล้วว่าเหมาะสม (Market Timing) เช่น เริ่มต้นลงทุนครั้งแรกเราก็ลงทีเดียวเลย 50,000 บาท ซึ่งในเดือนนั้นราคาหน่วยลงทุนอยู่ที่ 12 บาท สิ่งที่เราสนใจ คือ ความคาดหวังว่าหลังจากเราลงทุนไป เมื่อถึงเวลาที่เราต้องการนำเงินมาใช้ ราคาหน่วยลงทุนต้องมากกว่า 12 บาท เพื่อให้เราทำกำไรได้
ไม่ว่าจะลงทุนรูปแบบไหน ก็สามารถลงทุนใน odini ได้ เพราะเรามีผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงิน การลงทุน รวมถึง Robo-advisor ที่จะเข้ามาช่วยให้เพื่อน ๆ ลงทุนได้อย่างถูกเวลา ถูกจังหวะ เหมาะสม คลิกลิงก์ดาวน์โหลดได้เลยที่ https://bit.ly/odiniapp
เกิดคำถามว่าเราลงทุนแบบไหนดีกว่ากัน ? ก็ขึ้นอยู่กับการยอมรับความเสี่ยงของนักลงทุนและเป้าหมายในการลงทุน แอดพาไปดูดีกว่าว่าข้อดี – ข้อเสียของการลงทุนทั้ง 2 รูปแบบแตกต่างกันอย่างไร
ข้อดีของการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย (DCA)
- ฝึกวินัยการออม เป็นข้อดีข้อแรกที่สำคัญสำหรับนักลงทุนเลยก็ว่าได้ ยิ่งเรามีวินัยในการออมมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เราไปถึงเป้าหมายการออมได้เร็วขึ้นเท่านั้น จำไว้ว่า “ออมก่อนใช้” จะช่วยให้เราไม่ขาดการออมสักเดือนเดียว และสามารถทำได้ในระยะเวลายาวนานด้วย
- เฉลี่ยต้นทุน แน่นอนว่านี้คือจุดเด่นสำคัญในการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย (DCA) เลย โดยเฉพาะเราไม่รู้ว่าสภาวะตลาดจะเป็นอย่างไรในอนาคต การลงทุนถัวเฉลี่ยสม่ำเสมอจะทำให้ต้นทุนการลงทุนเฉลี่ยต่ำลงและการลงทุนแบบนี้จะดีมาก ถ้าภาวะตลาดมีความผันผวนและเป็นขาลง เพราะเราจะสามารถซื้อหน่วยลงทุนที่ราคาต่ำได้จำนวนมาก
- ไม่พลาดโอกาสลงทุน เพราะเราสามารถลงทุนได้ในทุกสภาวะตลาด ด้วยการลงทุนในทุก ๆ เดือน ช่วยเพิ่มโอกาสการที่ดีในการลงทุนได้
- ตัดอารมณ์การลงทุน โดยส่วนใหญ่แล้วสภาวะอารมณ์ของนักลงทุนจะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะตลาด ว่าจะมีความอ่อนไหวมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะช่วงวิกฤตที่จะทำให้นักลงทุนตัดอารมณ์ความรู้สึกการลงทุนออกไปได้ เพราะเราวางแผนการลงทุนทุกๆ เดือนอยู่แล้ว ไม่ว่าเดือนนี้ตลาดปรับลดลงก็ได้ลงทุน เดือนถัดไปตลาดปรับขึ้นก็ยังได้ลงทุน
ข้อดีของการลงทุนแบบก้อนเดียว (Lump Sum)
- ได้ผลตอบแทนสูง เมื่อตลาดอยู่ในภาวะขาขึ้น การลงทุนแบบก้อนเดียวเลยครั้งแรก แล้วหากตลาดกำลังอยู่ในขาขึ้นจะทำให้เราได้ผลตอบแทนที่มากกว่าอยู่แล้ว เพราะเราลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก แน่นอนว่าความเสี่ยงในการลงทุนก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
- เลือกจังหวะตลาด เนื่องจากการลงทุนแบบก้อนเดียว ทำให้เราต้องมีความแม่นยำในการจับจังหวะตลาด แล้วค่อยนำเงินมาลงทุน ซึ่งนักลงทุนต้องเตรียมพร้อมลงทุนอยู่เสมอ ด้วยการติดตามข้อมูลข่าวสาร อ่านบทวิเคราะห์ รวมถึงต้องมีประสบการณ์การลงทุน และที่สำคัญจะต้องมีความแม่นยำในจังหวะขายด้วย
ดังนั้น ถ้าเปรียบเทียบกันทั้ง 2 แบบ ว่าเหมาะกับใครบ้าง ? odini ขอบอกว่า
การลงทุนแบบถัวเฉลี่ย (DCA) จะเหมาะกับนักลงทุนรายย่อย หรือ มนุษย์เงินเดือน เพราะลงทุนด้วยเงินจำนวนไม่มาก เหมาะกับเป้าหมายทางการเงินระยะยาว ด้วยการออมเงินไว้ใช้จนถึงวัยเกษียณ แต่ถ้าหากมีรายได้เสริม หรือ ได้รับเงินโบนัส ก็สามารถลงทุนแบบก้อนเดียว (Lump Sum) ได้นะ โดยเก็บออมเงินไว้ครบก่อน แล้วค่อยลงทุนทีเดียวเลยก็ย่อมได้เช่นกัน
หากใครอ่านเรียบร้อยแล้ว แล้วรู้แล้วว่าตัวเองเหมาะสมกับการลงทุนแบบไหนก็เริ่มลงทุนได้เลยกับ odini ลงทุนง่าย ได้ทุกคน
#odini #แอปลงทุนกองทุนรวมอัตโนมัติ #ลงทุนง่ายได้ทุกคน